http://www.consumerprotection.or.th
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 สิทธิและหน้าที่ของผู้บริโภค  เกี่ยวกับสมาคม  ผลการดำเนินงาน  สมัครสมาชิก  ติดต่อเรา
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
การโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทางสื่อออนไลน์
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล
สาระน่ารู้เกี่ยวกับผู้บริโภค
ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ด้านบริการทางการแพทย์
ด้านอสังหาริมทรัพย์
ด้านอื่น ๆ
บทความ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง




 

โรคเหงือกอักเสบและปริทันต์

โรคเหงือกอักเสบ

โรคเหงือกอักเสบ ข้าศึกร้ายทำลายฟันสวย


          โรคเหงือก หรือ โรคเหงือกอักเสบ เป็นโรคที่คนส่วนใหญ่ปล่อยปละละเลย และไม่ได้คำนึงถึงความสำคัญทำให้เกิดปัญหา โรคเหงือกขั้นลุกลาม ทำให้สูญเสียฟันโดยไม่รู้ตัว

          ทันตแพทย์หญิง ดร.กนกวรรณ นิสภกุลธร ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปริทันต์ สมาคมทันตวิทยาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โรคเหงือกอักเสบ และโรคปริทันต์อักเสบ มีสาเหตุมาจากการขาดการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี ทำให้เกิดการสะสมของคราบจุลินทรีย์และหินปูน ซึ่งเป็นที่สะสมของเชื้อโรคทำให้เกิด โรคเหงือกอักเสบ โดยมีอาการเหงือกบวมแดง มีเลือดออกง่ายตามไรฟันโดยเฉพาะในขณะแปรงฟัน หากไม่ดูแลอาจเป็นเหตุทำลายกระดูกรอบรากฟัน เกิดฟันโยกและต้องถอนฟันในที่สุด
          นอกจาก โรคเหงือกอักเสบ จะทำให้เกิดการสูญเสียฟันแล้ว การเป็น โรคเหงือกอักเสบ ยังทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด ทำให้คนไข้เบาหวานควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ยาก และยังเพิ่มความเสี่ยงให้กับหญิงมีครรภ์โดยอาจทำให้คลอดก่อนกำหนดได้

          ทันตแพทย์สุนทร อัศวานันท์ ผู้อำนวยการ คลินิกทันตกรรมอัศวานันท์ ได้ให้คำแนะนำเพิ่มว่า ควรทำความสะอาดฟันอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง และควรเลือกใช้แปรงที่มีขนแปรงอ่อนนุ่ม และแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ร่วมกับไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้ง ถนอมฟันด้วยการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเป็นกรดสูง ไม่ควรแปรงฟันหลังทานอาหารทันที เพราะทำให้ฟันสึกได้ และไม่ควรแปรงฟันนานเกินไป เพราะจะทำให้เหงือกเกิดการอักเสบ ที่สำคัญควรตรวจสุขภาพปากและฟันอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง แค่นี้ก็เป็นยืดอายุฟันได้ยาวนาน อย่าลืมว่าสุขภาพฟันที่ดีเริ่มจากตัวเอง

โรคปริทันต์

โรคปริทันต์ พ่วงโรคร้ายนานาชนิด

จากการสำรวจของกองทันตสาธารณสุขกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข ล่าสุดพบว่า เด็กอายุ 12 ปี เป็นโรคปริทันต์อักเสบ หรือโรคเหงือกอักเสบแล้วถึงร้อยละ 80 และกลุ่มวัยทำงานเป็นโรคปริทันต์อักเสบถึงร้อยละ 40 และเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 80-90 ในผู้สูงอายุ กล่าวได้ว่าโรคปริทันต์เป็นโรคที่เกิดได้กับทุกคนในครอบครัวนั่นเอง

         ด้าน อ.ทพญ.ดร.กนกวรรณ นิสภกุลธร ประธานวิชาการสมาคมปริทันตวิทยาแห่งประเทศไทย และ ทพ.สุนทร อัศวานันท์ ผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรมอัศวานันท์ ร่วมกันให้ความรู้เรื่องนี้ว่า "สุขภาพของช่องปากและฟันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งลโดยตรงกับการมีสุขภาพกายที่ดี การปล่อยปละละเลยสุขภาพของช่องปาก เป็นสัญญาณอันตรายที่จะนำไปสู่การเป็นโรคร้ายอื่นๆ ทั้งที่จริงๆ แล้วเราสามารถดูแลสุขภาพของช่องปากและฟัน ตลอดจนป้องกันการเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ ได้อย่างง่ายๆ เพียงแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี"
         "ตามปกติแล้วสาเหตุหลักที่ทำให้สูญเสียฟันก็คือ โรคฟันผุ และโรคเหงือก หรือโรคปริทันต์ ซึ่งนอกจากทำให้เกิดการสูญเสียฟันแล้ว การติดเชื้อเรื้อรังในช่องปากจาก โรคปริทันต์อักเสบ ยังทำให้เกิดโรคร้ายแรงอื่นๆ ตามมาอย่างคาดไม่ถึง อาทิ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด ทำให้คนไข้เบาหวานควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ยาก นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดทารกก่อนกำหนดของหญิงมีครรภ์ด้วย  ใครจะรู้ว่าแค่เหงือกอักเสบนิดเดียว จะกลายเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โตได้ถึงเพียงนี้"
         โรคปริทันต์ เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในคราบจุลินทรีย์บนผิวฟัน โรคปริทันต์ อาจเกิดกับฟันซี่เดียวหรือหลาย ๆ ซี่ในปาก หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้ฟันโยกจนต้องถอนฟันในที่สุด โดยโรคนี้สามารถแบ่งอย่างง่าย ๆ ได้เป็น  2 ประเภทตามความรุนแรงของโรคคือ โรคเหงือกอักเสบ และ โรคปริทันต์อักเสบ โรคเหงือกอักเสบมีความรุนแรงน้อยกว่า โดยมีการอักเสบเฉพาะที่เหงือก ส่วน โรคปริทันต์อักเสบ หรือเดิมเรียกว่า โรครำมะนาด มีความรุนแรงของโรคมากกว่า นั่นคือ จะมีการอักเสบของเหงือกร่วมกับการที่กระดูกรอบรากฟันถูกทำลาย โรคปริทันต์อักเสบส่วนใหญ่พบในคนอายุ  30-40  ปีขึ้นไป และจะทวีความรุนแรงของโรคเพิ่มมากขึ้นตามอายุที่มากขึ้น แต่ในปัจจุบันพบว่ามี โรคปริทันต์อักเสบ บางชนิดที่สามารถพบได้ในวัยเด็ก และวัยรุ่น  
         โรคปริทันต์ เป็นโรคที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ และมักไม่แสดงอาการเจ็บปวดใดๆ คนส่วนใหญ่จึงไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคปริทันต์ และมักมาพบทันตแพทย์เมื่อโรคลุกลามไปมากแล้ว ผู้ที่มีเหงือกอักเสบมากอาจพบว่ามีเลือดออกขณะแปรงฟัน ผู้ที่เป็น โรคปริทันต์อักเสบ อาจสังเกตเห็นว่าเหงือกของตนเองมีการร่นเพิ่มขึ้น ช่องว่างระหว่างฟันมีขนาดใหญ่ขึ้น ฟันเริ่มแยกห่างจากกัน ฟันโยก เหงือกบวม เป็นๆ หายๆ มีหนอง หรือมีกลิ่นปาก ซึ่งนอกจากจะทำให้เจ็บปวดทรมานแล้ว ยังทำให้สูญเสียความมั่นใจ จะพูดกับใครก็กลัวสังคมรังเกียจอีกด้วย

 ที่มา : http://health.kapook.com/view3712.html

 
Menu
หน้าแรก
เครือข่ายผู้บริโภค
ศูนย์ราชการสะดวก
สื่อวิทยุสมาคม
ข่าวสาร
สรุปกิจกรรม 2566
สรุปกิจกรรม 2565
สรุปกิจกรรม 2564
สรุปกิจกรรม 2563
สรุปกิจกรรม 2561
สรุปกิจกรรม 2560
สรุปกิจกรรม 2559
สรุปกิจกรรม 2558
สรุปกิจกรรม 2557
สรุปกิจกรรม 2556
สรุปกิจกรรม 2555
สรุปกิจกรรม 2554
สรุปกิจกรรม 2553
สรุปกิจกรรม 2562
การร้องเรียน
ติดต่อเรา
แผนผังเว็บไซต์
สถิติเรื่องร้องเรียน
สมัครสมาชิก
เว็บบอร์ด
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 09/12/2010
ปรับปรุง 24/04/2024
สถิติผู้เข้าชม1,743,904
Page Views2,009,070
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
view