'ภาวะเลือดข้น' เสี่ยงโรคอะไรบ้าง เกิดจากการดื่มน้ำน้อยจริงหรือไม่
หลายคนเคยตั้งข้อสงสัยว่า ‘การดื่มน้ำน้อย’ นั้นสามารถทำให้ร่างกายของเรามี ‘ภาวะเลือดข้น’ ได้หรือไม่ แล้วหากเกิดภาวะเลือดข้นในร่างกายแล้ว จะส่งผลเสียใดบ้าง
ภาวะเลือดข้น (Polycythemia vera) คือ อัตราความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงในร่างกายมีค่าที่สูงผิดปกติ อาจส่งผลต่อระบบร่างกายโดยตรงจากกระแสเลือดที่มีความเข้มข้น และหนืดขึ้น ทำให้เลือดเกิดการไหลเวียนในร่างกายได้ช้า และผิดปกติ มีความเสี่ยงทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันตามอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย และสามารถส่งผลกระทบร้ายแรง จากภาวะอื่นๆ ร่วมด้วย รวมถึงเกิดโรคแทรกซ้อนในร่างกายได้ง่ายยิ่งขึ้น
หลายคนคงมีข้อสงสัยว่า หาก ‘ดื่มน้ำน้อย’ จะทำให้การเข้มข้นของเลือดสูงขึ้นได้จริงหรือไม่ โดยข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า “เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง” เนื่องจาก ภาวะเลือดข้นนั้นมักจะเกิดจากการสร้างเม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติ ถึงแม้ว่าการขาดน้ำ และเกลือแร่ อาจจะทำให้เลือดข้นขึ้นได้ แต่การดื่มน้ำน้อยเพียงอย่างเดียว จะไม่ทำให้เกิดภาวะเลือดข้นได้โดยตรง ซึ่งร่างกายอาจจะมีสาเหตุอื่นร่วมด้วย เช่น โรคประจำตัว
เหตุผลดังกล่าวข้างต้น สามารถชี้แจงได้ดังนี้ คือ คนเราจำเป็นต้องดื่มน้ำให้พอเหมาะต่อร่างกาย เพื่อปรับสมดุล ไม่มาก และไม่น้อยจนเกินไป โดยปกติแล้วมนุษย์ต้องดื่มน้ำวันละ 1.5 ลิตร ต่อวัน และไม่เกิน 3-4 ลิตรต่อวัน แม้จะดื่มน้ำน้อย หรือดื่มน้ำมากเกินไป ความพิเศษของร่างกายมนุษย์จะสามารถปรับสมดุลได้ ภาวะเลือดข้น จึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวล
สาเหตุของภาวะเลือดข้น
ภาวะเลือดข้น เกิดจากพลาสม่า หรือของเหลวในร่างกาย จำพวกเซลล์เม็ดเลือด โปรตีน ออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ สารอาหาร เอนไซม์ ฮอร์โมน สารต่างๆ และน้ำ ลดลง โดยร่างกายไม่สามารถปรับสมดุลได้ทัน และ ไขกระดูกผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงออกมาในปริมาณที่มากเกินไป
- เกิดจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไป
- การสูบบุหรี่
- การดื่มแอลกอฮอล์
- การใช้ยา
- โรคเบาหวาน
ภาวะเลือดข้น มีทำให้โรคอะไร และมีอาการใดบ้าง
ภาวะเลือดข้น หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ร่างกายแปรปรวน และผิดปกติ อาจส่งผลให้เลือดนั้นเป็นลิ่ม เลือดไหลช้า มีความหนืด และเกิดการอุดตัน อาจทำให้มีอันตรายต่อชีวิตได้ หากไปอุดตันที่หัวใจ หรือสมอง
- โรคความดันสูง
- เหน็บชา
- ลิ่มเลือดอุดตันตามอวัยวะ
- ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ร่างกายอ่อนเพลียง่าย
- หน้ามืด การมองเห็นผิดปกติ
- เหนื่อยง่าย เจ็บแน่นหน้าอก
- เส้นเลือดปริ หรือแตก
วิธีป้องกัน และรักษาภาวะเลือดข้น สามารถทำได้ด้วยการหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำด้วยการตรวจความสมบูรณ์ของเลือด ซึ่งหากผู้ป่วย มีประวัติภาวะเลือดข้น ซึ่งเกิดจากกรรมพันธุ์ สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจเลือดเพิ่มเติมได้ ส่วนการรักษาเบื้องต้น คือ การบำรุงเลือด ทานยา ตามการรักษาจากแพทย์เบื้องต้น หรืออาจจะต้องถ่ายเลือด เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะเลือดข้น ที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน ที่สามารถส่งผลร้ายแรงในอนาคต
ข้อมูล : สสส., โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาด และ โรงพยาบาลสมิติเวช
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2725231