ข่าวสภาผู้บริโภค รถ-ราง-เรือ พัฒนาพร้อมกัน คือทางออกขนส่งมวลชน
“ทุกวันนี้ ประเทศไทยมีรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วทั้งสิ้น 12 เส้นทาง รวมระยะทาง 242.34 กิโลเมตร และในปี 2567 – 2572 ยังมีแผนที่จะสร้างรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 11 เส้นทาง รวมทั้งหมดเป็น 33 เส้นทาง” นี่คือข้อมูลที่ อธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง นำเสนอในเวทีแลกเปลี่ยนความเห็น “อนาคตและทิศทางการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล” ที่จัดโดยสภาผู้บริโภคเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
.
อธิบดีกรมรางฯ อธิบายว่า การสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร แบ่งตามเป้าหมายการใช้งานได้ 3 ประเภท คือ หนึ่ง รถไฟฟ้าที่พาคนที่อาศัยอยู่รอบนอกเมืองหรือเขตปริมณฑลเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ เช่นรถไฟฟ้าสายสีแดง สีส้ม สีชมพู สอง รถไฟฟ้าสายหลักที่วิ่งใจกลางเมือง ได้แก่ สายสีเขียว และสาม รถไฟฟ้าที่วิ่งเป็นวงกลม ทำหน้าที่รวมและกระจายปริมาณผู้โดยสารของทุกสาย ได้แก่ สายสีน้ำเงิน
.
ทั้งนี้ การวางแผนและสร้างระบบรางในเขตกรุงเทพฯ มีเป้าหมายหลัก ๆ 5 ประการ ได้แก่ 1) ลดความแออัดของการเดินทางในระบบราง 2) เพิ่มระบบขนส่งทางรางให้มีความครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล 3) เพิ่มการเชื่อมโยงของระบบรางทำให้เดินทางได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายการเดินทางบ่อย 4) ปรับปรุงโครงสร้างค่าโดยสารให้เหมาะสมและเป็นธรรมมากขึ้น และ 5) เชื่อมต่อกับการขนส่งรูปแบบอื่นอย่างมีประสิทธิภาพ
.
อย่างไรก็ตาม เสียงสะท้อนในเวทีแลกเปลี่ยนความเห็น จากทั้งนักวิชาการ ตัวแทนพรรคการเมือง และเครือข่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ใช้บริการระบบขนส่งมวลชน ชี้ให้เห็นว่า หากรัฐบาลมีแผนจะสร้างรถไฟฟ้าหลากหลายเส้นทาง ควรทำให้ทุกสายเชื่อมต่อกันได้โดยไม่มีค่าแรกเข้า และปรับวิธีการคำนวณค่าโดยสารเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยคุมราคาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อให้รถไฟฟ้าเป็นระบบขนส่งมวลชนที่ทุกคนขึ้นได้ทุกวัน นอกจากนี้ รัฐต้องผลักดันให้เกิดระบบตั๋วร่วม – ค่าโดยสารร่วม และพัฒนาระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ เช่น รถเมล์ เรือ ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้พัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะในกรุงเทพฯ ได้อย่างแท้จริง