http://www.consumerprotection.or.th
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 สิทธิและหน้าที่ของผู้บริโภค  เกี่ยวกับสมาคม  ผลการดำเนินงาน  สมัครสมาชิก  ติดต่อเรา
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
การโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทางสื่อออนไลน์
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล
สาระน่ารู้เกี่ยวกับผู้บริโภค
ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ด้านบริการทางการแพทย์
ด้านอสังหาริมทรัพย์
ด้านอื่น ๆ
บทความ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง




 

แนะร้านอาหารพื้นที่สีแดงเข้ม ยกระดับความปลอดภัยหลังคลายล็อก

แนะร้านอาหารพื้นที่สีแดงเข้ม ยกระดับความปลอดภัยหลังคลายล็อก

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย ศบค. ผ่อนคลายพื้นที่สีแดงเข้ม นั่งกินในร้านอาหารได้ 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่นั่งปกติในบริเวณห้องปรับอากาศ และบริเวณไม่ติดเครื่องปรับอากาศนั่งได้ตามปกติ เปิดนานถึง 5 ทุ่ม แนะร้านอาหารยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วยการจัดหาวัคซีนสำหรับผู้ประกอบกิจการ ผู้สัมผัสอาหาร และผู้ปฏิบัติงานในร้านมีมาตรการลดการสัมผัสต่าง ๆ ลดการติดและแพร่เชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย  อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากมาตรการผ่อนคลายของ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ซึ่งปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเหลือ 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ โดยให้ร้านอาหารสามารถนั่งกินในร้านได้ และเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 23.00 น.แต่ยังคงจำกัดจำนวนคนนั่ง 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่นั่งปกติในบริเวณห้องปรับอากาศ คือหากภายในร้านมีที่นั่งสามารถรองรับลูกค้าได้ 100 คน ก็จะจำกัดจำนวนการให้บริการได้เพียง 50 คน โดยทุกร้านยังคงต้องเฝ้าระวังเรื่องความเสี่ยงให้มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้มงวดต่อมาตรการป้องกันโควิด-19 ดังนี้

1) คัดกรองพนักงานก่อนเข้าปฏิบัติงาน 2) กำหนดจุดคัดกรองลงทะเบียน และกำหนดทางเข้าออกอย่างชัดเจน 3) เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร เพื่อลดความแออัด โดยจัดที่นั่งกินอาหารแบบไม่เผชิญหน้ากัน หากมีพื้นที่จำกัดให้ทำฉากกั้น 4) มีการระบายอากาศที่เพียงพอ และจัดสภาพแวดล้อมให้สะอาด ถ้าเป็นห้องปรับอากาศ ต้องเปิดระบายอากาศทุก 1 ชั่วโมง

5) พนักงานและลูกค้าสวมหน้ากากให้ถูกต้องตลอดเวลา 6) ทำความสะอาดโต๊ะทันทีหลังใช้บริการ รวมทั้งห้องน้ำ จุดสัมผัสร่วม และมีการจัดการขยะมูลฝอยทุกวัน 7) จัดอุปกรณ์กินอาหารเฉพาะบุคคล โดยเฉพาะร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์/ข้าวต้ม/สลัดบาร์/หมูกระทะ ให้งดการไปตักอาหารแบบที่รวมกลางหรือบุฟเฟต์ เพราะจะทำให้คนไปรวมกันหนาแน่น เสี่ยงแพร่เชื้อ และกรณีที่ต้องรับประทานหม้อ/ภาชนะเดียวกัน ต้องจัดอุปกรณ์ตักอาหารเฉพาะบุคคลเช่นเดียวกัน และต้องไม่ใช้ช้อนกลางร่วมกัน 8) ร้านอาหารต้องประเมิน Thai Stop COVID Plus และติดประกาศให้ชัดเจน

ส่วนพนักงานให้ประเมินผ่าน “ไทยเซฟไทย” ทุกครั้งก่อนเข้าทำงาน อีกทั้งควรยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วยระบบการจองคิวออนไลน์ บริการสั่งซื้อกลับบ้าน รวมถึงแสดงรายละเอียดข้อมูลผู้ฉีดวัคซีน โดยการจัดหาวัคซีนสำหรับผู้ประกอบกิจการผู้สัมผัสอาหารและผู้ปฏิบัติงานในร้าน กรณีที่พบผู้ป่วยให้ปิดทันที 1-3 วัน เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคตามมาตรการควบคุมโรค และถ้าจะเปิดร้านต้องประเมินผ่านมาตรการที่กำหนดก่อน

สำหรับผู้บริโภคต้องเฝ้าระวังและป้องกันตนเองอย่างเข้มข้น  เมื่อใช้บริการในร้านอาหาร โดยสวมหน้ากากให้ถูกต้องตลอดเวลา ยกเว้นเวลากินอาหาร เนื่องจากผลการสำรวจอนามัยโพลเรื่องพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในการป้องกันโรคโควิด-19 ครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม – 18 มิถุนายน 2564 พบว่า ประชาชนสวมหน้ากากเป็นประจำเมื่อออกจากบ้านร้อยละ 97.8 ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากการสำรวจครั้งผ่านมา จึงต้องเน้นย้ำให้ประชาชนที่ออกจากบ้านเพื่อมากินอาหารในร้าน ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยให้ถูกต้องตลอดเวลา เว้นระยะห่างกับคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ เพราะมีโอกาสที่จะนำมือมาสัมผัสใบหน้า  โดยไม่รู้ตัว ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสม่ำเสมอก่อนเข้าทำงาน และสแกนแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้ง เมื่อเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ ด้วย

https://www.thaihealth.or.th/Content/54814

Tags :

 
Menu
หน้าแรก
เครือข่ายผู้บริโภค
ศูนย์ราชการสะดวก
สื่อวิทยุสมาคม
ข่าวสาร
สรุปกิจกรรม 2566
สรุปกิจกรรม 2565
สรุปกิจกรรม 2564
สรุปกิจกรรม 2563
สรุปกิจกรรม 2561
สรุปกิจกรรม 2560
สรุปกิจกรรม 2559
สรุปกิจกรรม 2558
สรุปกิจกรรม 2557
สรุปกิจกรรม 2556
สรุปกิจกรรม 2555
สรุปกิจกรรม 2554
สรุปกิจกรรม 2553
สรุปกิจกรรม 2562
การร้องเรียน
ติดต่อเรา
แผนผังเว็บไซต์
สถิติเรื่องร้องเรียน
สมัครสมาชิก
เว็บบอร์ด
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 09/12/2010
ปรับปรุง 24/04/2024
สถิติผู้เข้าชม1,744,156
Page Views2,009,327
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
view