ไม่สัมผัส ลดความเสี่ยงโควิด-19
ห่วงคนไทยละเลยสุขอนามัยส่วนบุคคล ยิ่งทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จึงเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนช่วยกันป้องกันการระบาด
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ข้อมูลว่า จากกรณีที่ประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่มขึ้น และเป็นคนไทยทั้งหมด ซึ่งล่าสุด พบว่าผู้ที่ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนมีประวัติสัมผัสกับเพื่อนที่เดินทางจากฮ่องกง โดยนัดสังสรรค์และมีพฤติกรรมใช้แก้วร่วมกัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน ถือเป็นความเสี่ยงที่เกิดจากการสัมผัสและอาจปนเปื้อนเชื้อโรคผ่านทางน้ำลาย จึงขอเน้นย้ำให้บุคคลกลุ่มเสี่ยง เพื่อน หรือสมาชิกในครอบครัวที่ต้องอยู่ร่วมกันให้ความสำคัญต่อสุขอนามัยส่วนบุคคล ต้องไม่ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกัน เช่น จาน ชาม ช้อนส้อม ตะเกียบ และแก้วน้ำ และสิ่งของที่เป็นของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วยหรือผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวัง 14 วัน เพื่อลดแพร่เชื้อโรคด้วยการสัมผัสซึ่งต้องคุมเข้ม
ทั้งนี้ ร้านอาหารเป็นอีกหนึ่งสถานประกอบการที่ สธ.เน้นย้ำมาตรการในการป้องกันโดยเน้นจุดสำคัญคือ จุดปรุงประกอบอาหาร โต๊ะ ห้องน้ำ ลูกบิด และอุปกรณ์ ทำความสะอาดให้บ่อยขึ้นเน้นกระบวนการปรุงสุก ร้อน ทุกครั้ง ส่วนผู้สัมผัสอาหารก็ต้องมีสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี ถ้าพนักงานในร้านเจ็บป่วย ไม่สบาย ต้องให้หยุดงานหรือพบแพทย์ ซึ่งวิธีการป้องกันนี้ยังหมายรวมถึงร้านอาหารที่เป็นบุฟเฟต์ควรมีที่คีบอาหารและช้อนกลางแยกไว้ตามโต๊ะ
ทางด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเสริมว่า หากมีการตรวจพบว่าผู้ที่มากินอาหารหรือใช้บริการในร้านเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง และไม่ได้กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน ทางร้านควรปิดร้าน หยุดให้บริการเพื่อทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในร้าน รวมทั้งล้างทำความสะอาดจาน ชาม ช้อน พร้อมนำมาผึ่งให้แห้งหรืออบเพื่อฆ่าเชื้อ
แต่สำหรับในกรณีที่ผู้บริโภคสั่งอาหารมากินที่บ้านนั้น อาหารที่ส่งต้องสะอาดและยังคงสุก ร้อน เมื่อถึงมือผู้บริโภคและให้ล้างมือทุกครั้งด้วยสบู่และน้ำก่อนกินอาหารและหลังเข้าส้วม
https://www.thaihealth.or.th/Content/51506-ไม่สัมผัส%20ลดความเสี่ยงโควิด-19.html