ใช้ยาสมเหตุผล...คนไทยต้องเข้าใจไม่ใช้ยาเกินจำเป็น
ปัญหาการใช้ยาไม่สมเหตุผลเป็นปัญหาสำคัญระดับโลกมาเป็นเวลาช้านาน มีรายงานพบว่าน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาตามมาตรฐานการรักษา และมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยไม่สามารถใช้ยาที่ได้รับมาจากผู้สั่งใช้ยา จนส่งผลให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์หรือปัญหาเชื้อดื้อยารวมทั้งการสูญเสียเงินทองเกินจำเป็น
ข้อมูลจาก ภญ.จันทิมา โยธาพิทักษ์ ผู้ช่วยนายก สภาเภสัชกรรม ฝ่ายวิชาการ เปิดเผยว่า การใช้ยา สมเหตุผล คือ การใช้ยาที่เหมาะสมกับโรค ในขนาดและระยะเวลาการใช้ที่ถูกต้อง เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด เช่น ถ้าปวดศีรษะอย่างเดียว ก็รับประทานยาพาราเซตามอล 1 เม็ด ไม่ต้องรับประทานยาชุดหลายๆ เม็ด ถ้ามีอาการเป็นหวัด น้ำมูกไหล เป็นน้ำมูกใสๆ ซึ่งไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ฆ่าเชื้อ เป็นต้น
การใช้ยาที่มากเกินไปก่อให้เกิดผลเสียทั้งกับตัว ผู้ป่วยเองและประเทศชาติ สำหรับตัวผู้ป่วยนอกจากจะต้องเสียเงิน แล้วยังมีโอกาสเกิดการแพ้ยาที่ได้โดย ไม่จำเป็นอีกด้วย สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ต้องเสียเงินค่ายา ได้รับสวัสดิการค่ายาฟรี การใช้ยามากเกินไปก็ทำให้สูญเสียเงินของแผ่นดิน อีกทั้งอาจเกิดปัญหาจากการใช้ยาในปริมาณมากเกินไป เช่น ทำให้เชื้อดื้อยา เมื่อเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อ ก็ต้องใช้ยาที่มีราคาแพงขึ้น หรือไม่มียาใช้ เสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
เพื่อให้ได้รับยาสมเหตุผล เมื่อมีอาการเจ็บป่วยควรไปพบแพทย์หรือปรึกษาเภสัชกรในร้านยาใกล้บ้าน ไม่ซื้อยาจากร้านขายยาที่ไม่มีเภสัชกร หรือร้านชำ จะต้องไม่กินยาของผู้อื่น ถึงแม้จะมีอาการคล้ายกัน และเมื่อได้รับยามาแล้วก็ควรจะใช้ยาตามที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ อ่านฉลากยาก่อนใช้ยาทุกครั้ง
หลักการ 5 ถูก ของการใช้ยา สิ่งสำคัญที่ทุกคน ต้องรู้
หลักการใช้ยาอย่างสมเหตุผล จะต้องใช้ยาให้ถูกต้อง 5 อย่าง ได้แก่
1.ถูกคน ไม่นำยาของคนอื่นมาใช้ ถึงแม้จะมีอาการคล้ายกัน เพราะอาการที่เราคิดว่าคล้ายกันอาจเกิดจากสาเหตุที่ต่างกัน ยาที่เหมาะสมในการใช้รักษาก็จะต่างกัน เช่น มีอาการปวดหัวเหมือนกัน แต่บางคน อาจปวดหัวจากที่เป็นไข้หวัดธรรมดา ใช้ยาลดไข้แก้ปวดพาราเซตามอลก็หาย ในขณะที่บางคนปวดศีรษะจาก โรคไมเกรน ยาที่ใช้ก็จะไม่เหมือนกัน ถ้าผู้ป่วยปวดศีรษะธรรมดา แต่ไปนำยาแก้ปวดไมเกรนของผู้อื่นมาใช้ก็จะเกิดอันตรายจากยาได้
2.ถูกโรค ผู้ป่วยหลายรายไม่ว่าจะมีอาการป่วยแบบไหน จะไปขอซื้อยาแก้อักเสบเสมอ ปวดเมื่อยก็ขอยาแก้อักเสบ เป็นหวัด เจ็บคอ ก็ขอยาแก้อักเสบ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ถ้ามีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ก็ควรใช้ยาแก้ปวดคลายกล้ามเนื้อ ไม่ใช่ยาแก้อักเสบ การใช้ยาที่ถูกกับโรคที่เป็น ก็จะทำให้ลดการใช้ยาที่ไม่จำเป็น
3.ถูกขนาด ผู้ป่วยบางคนเข้าใจว่าการเพิ่มขนาดยา จะทำให้หายเร็ว ซึ่งก็เป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเช่นกัน ยาทุกชนิดจะมีขนาดที่เหมาะสมต่อการรักษาผู้ป่วยต่างๆ กัน เช่น ขนาดยาสำหรับเด็กก็จะน้อยกว่าขนาดยาของผู้ใหญ่ ขนาดยาของผู้ป่วยที่มีน้ำหนักมากก็อาจจะสูงกว่าขนาดยาของผู้ป่วยที่มีน้ำหนักน้อยกว่า ดังนั้นควรรับประทานยาตามขนาดที่แพทย์สั่ง ไม่เพิ่มขนาดเอง การใช้ยามากเกินขนาด นอกจากจะไม่ทำให้โรคหายเร็วขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้เกิดพิษจากยาที่มีปริมาณมากเกินได้
4.ถูกวิธี ยาสามารถใช้ได้หลายวิธี เช่น อมใต้ลิ้น รับประทาน ทาบริเวณที่มีอาการ เหน็บช่องคลอด เหน็บทวารหนัก พ่นทางปาก พ่นทางจมูก การใช้ยาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต้องใช้ในวิธีที่ถูกต้องตามที่แพทย์สั่งหรือเภสัชกรแนะนำ
5.ถูกเวลา ยาแต่ละชนิดจะมีเวลาที่เหมาะสมในการใช้แตกต่างกัน เช่น ยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ ต้องรับประทานหลังอาหารทันที และดื่มน้ำตามมากๆ เพราะถ้ารับประทานตอนท้องว่างยาจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารเกิดแผล และเลือดออกในกระเพาะอาหารได้ ยาฆ่าเชื้อบางชนิดต้องรับประทานก่อนอาหาร เพราะยาจะถูกทำลายด้วยกรดที่หลั่งออกมาเมื่อมีอาหารในกระเพาะ ยาบางชนิดควรรับประทานก่อนนอน เพราะยาทำให้ง่วงซึม การรับประทานตอนเช้าอาจทำให้ง่วงจนทำงานไม่ได้ ในขณะที่ยาขับปัสสาวะที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูงต้องรับประทานตอนเช้า ไม่ควร รับประทานก่อนนอนเพราะผู้ป่วยจะต้องลุกถ่ายปัสสาวะทั้งคืน ไม่ได้นอน จากข้อมูลที่กล่าวมาจะเห็นยาแต่ละชนิด มีเวลาที่เหมาะสมของตัวเอง ดังนั้นการใช้ยาควรใช้ตามเวลาที่ระบุไว้ในฉลากอย่างเคร่งครัด
เพื่อร่วมรณรงค์ให้ประชาชนไทยมีการใช้ยาและสมุนไพรอย่างสมเหตุผล สภาเภสัชกรรม ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายวิชาชีพเภสัชกรรม ได้จัดงาน สัปดาห์เภสัชกรรม ประจำปี 2561 ขึ้น ระหว่างวันที่ 23-29 มิถุนายน 2561 ภายใต้คำขวัญ "ฉลาดใช้ยาและสมุนไพรสมเหตุผล ยุค 4.0...ปรึกษาเภสัชกร" โดยมุ่งหวังให้มีการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ส่งผลให้ประชาชนได้รับยาในปริมาณและระยะเวลาที่เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพ ไม่ควรซื้อยาจากผู้ที่ไม่มีความรู้ ไม่นำยาผู้อื่นมาใช้ อ่านฉลากก่อนใช้ยา และใช้ยาตามที่ระบุไว้ในฉลาก ทั้งขนาด วิธีใช้ และเวลาที่ใช้ ต้องการใช้ยาหรือสมุนไพรครั้งใดให้ปรึกษาเภสัชกร เพียงเท่านี้ทุกท่านก็จะปลอดภัยในการใช้ยา
http://www.thaihealth.or.th/Content/42673-ใช้ยาสมเหตุผล...คนไทยต้องเข้าใจไม่ใช้ยาเกินจำเป็น.html