http://www.consumerprotection.or.th
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 สิทธิและหน้าที่ของผู้บริโภค  เกี่ยวกับสมาคม  ผลการดำเนินงาน  สมัครสมาชิก  ติดต่อเรา
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
การโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทางสื่อออนไลน์
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล
สาระน่ารู้เกี่ยวกับผู้บริโภค
ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ด้านบริการทางการแพทย์
ด้านอสังหาริมทรัพย์
ด้านอื่น ๆ
บทความ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง




 

สธ. เตือนอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาน้ำยาบ้วนปาก

สธ. เตือนอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาน้ำยาบ้วนปาก 

กระทรวงสาธารณสุข ห่วงประชาชน หลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปาก อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงผ่านโลกออนไลน์ ชี้อันตราย เตือนประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อ พร้อมแนะวิธีใช้น้ำยาบ้วนปากถูกวิธี และหากพบปัญหาสุขภาพช่องปากให้พบทันตแพทย์

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัยและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า  ปัจจุบันมีการโฆษณาขายผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปากผ่านสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะบนสื่อออนไลน์ ซึ่งโฆษณาสรรพคุณว่าเมื่อใช้แล้วสามารถขจัดคราบหินปูน คราบพลัค คราบจุลินทรีย์ ทำให้หินปูนหลุดออกได้ และทำให้ฟันขาวขึ้นภายใน 1 สัปดาห์นั้น ขอเตือนว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากน้ำยาบ้วนปากไม่สามารถกำจัดหินปูนให้หลุดออกมาได้

แพทย์หญิงอัมพรกล่าวต่อว่า การใช้น้ำยาบ้วนปาก ไม่แนะนำให้ใช้เป็นกิจวัตรประจำวัน ให้ใช้เสริมการแปรงฟันในกรณีที่ทันตแพทย์แนะนำ มีข้อบ่งชี้ เช่น สุขภาพช่องปากไม่ดี ปากเป็นแผล เป็นโรคเหงือก มีการผ่าตัดเหงือก หรือคนที่มีแนวโน้มฟันผุง่าย ถ้าสุขภาพช่องปากเป็นปกติไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาบ้วนปาก เพราะการใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เชื้อราในช่องปากเพิ่มขึ้นและเสียสมดุลในช่องปาก เนื่องจากในน้ำยาบ้วนปากมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค จึงขอย้ำประชาชนอย่าหลงเชื่อ เนื่องจากไม่มีผลทางวิทยาศาสตร์หรือทางการแพทย์มายืนยัน  หากมีปัญหาควรปรึกษาแพทย์ดีที่สุด

ด้านทันตแพทย์หญิงปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการกองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่า ประสิทธิภาพของน้ำยาบ้วนปากจะช่วยลดกลิ่นปากได้ชั่วคราว สามารถควบคุมกลิ่นปากได้ประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น จากนั้นประสิทธิภาพจะลดลง ควรใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นครั้งคราวในกรณีที่ต้องการความมั่นใจ หากใช้เพื่อระงับกลิ่นปาก ควรแก้ที่สาเหตุของกลิ่นปากโดยตรง เช่น มีฟันผุ เป็นโรคเหงือกอักเสบ เป็นโรคระบบทางเดินอาหาร ทอนซิลอักเสบ หรือไซนัส ให้รับการรักษาอย่างตรงจุดและดูแลอนามัยในช่องปาก โดยแปรงฟันให้สะอาดทุกวัน เพิ่มการทำความสะอาดลิ้น เนื่องจากฝ้าขาวบนลิ้นเป็นสาเหตุสำคัญของกลิ่นปาก ขณะเดียวกันควรใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันทุกวัน  และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ ไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากทุกประเภท ทั้งประเภทที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และปราศตากแอลกอฮอล์ เนื่องจากยังไม่มีการควบคุมการกลืนที่ดี อาจมีการกลืนน้ำยาบ้วนปาก  สำหรับน้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์ผสม ห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี

http://www.thaihealth.or.th/Content/42358-สธ.%20เตือนอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาน้ำยาบ้วนปาก%20.html

Tags :

 
Menu
หน้าแรก
เครือข่ายผู้บริโภค
ศูนย์ราชการสะดวก
สื่อวิทยุสมาคม
ข่าวสาร
สรุปกิจกรรม 2566
สรุปกิจกรรม 2565
สรุปกิจกรรม 2564
สรุปกิจกรรม 2563
สรุปกิจกรรม 2561
สรุปกิจกรรม 2560
สรุปกิจกรรม 2559
สรุปกิจกรรม 2558
สรุปกิจกรรม 2557
สรุปกิจกรรม 2556
สรุปกิจกรรม 2555
สรุปกิจกรรม 2554
สรุปกิจกรรม 2553
สรุปกิจกรรม 2562
การร้องเรียน
ติดต่อเรา
แผนผังเว็บไซต์
สถิติเรื่องร้องเรียน
สมัครสมาชิก
เว็บบอร์ด
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 09/12/2010
ปรับปรุง 27/04/2024
สถิติผู้เข้าชม1,746,137
Page Views2,011,319
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
view