http://www.consumerprotection.or.th
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 สิทธิและหน้าที่ของผู้บริโภค  เกี่ยวกับสมาคม  ผลการดำเนินงาน  สมัครสมาชิก  ติดต่อเรา
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
การโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทางสื่อออนไลน์
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล
สาระน่ารู้เกี่ยวกับผู้บริโภค
ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ด้านบริการทางการแพทย์
ด้านอสังหาริมทรัพย์
ด้านอื่น ๆ
บทความ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง




 

วิจัยประเมิน'ภาวะสมองเสื่อม'

วิจัยประเมิน'ภาวะสมองเสื่อม'

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ในปี 2558 ระบุว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ ประมาณ 6 แสนคน และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.1 ล้านคน ในปี 2573 จากการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ฉะนั้น การเร่งพัฒนาองค์ความรู้ทางการแพทย์ในการตรวจวินิจฉัยโรค จึงเป็นงานท้าทายและมีความสำคัญ เพื่อขยายความครอบคลุมการบริการรักษา ตลอดจน ป้องกันภาวะสมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์ของประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

          ในอนาคตอันใกล้นี้ อาจสามารถตรวจวินิจฉัยภาวะสมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์ได้ในระยะเริ่มแรก รวมถึงใช้ผลในการวางแผนรักษาได้ต่อไป ซึ่งสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้สนับสนุนการศึกษาวิจัย "ประโยชน์ของการตรวจวินิจฉัยทางรังสี ด้วย F-18 florbetapir (F-18-AV-45) เพื่อประเมินการสะสมของโปรตีนเบต้าอะมัยลอยด์ในสมองในผู้ป่วยสมองเสื่อมจาก โรคอัลไซเมอร์, ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเล็กน้อยของความสามารถของสมองและผู้สูงอายุปกติ ในระยะที่ 1" โดยพบว่าการตรวจวินิจฉัยทางรังสีด้วย สารเภสัชรังสี F-18-AV-45 ที่มีการสังเคราะห์เองโดยนักวิจัยไทย จากการทดลองกับอาสาสมัครให้ผลการตรวจวินิจฉัยไปในทิศทางที่สัมพันธ์กับผลทดสอบทางจิตประสาท และวิธีการวินิจฉัยอื่นๆ

          รศ.พญ.ธัญญลักษณ์ เธียรธัญญกิจ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นักวิจัยเครือข่าย สวรส.กล่าวว่า ส่วนใหญ่การตรวจวินิจฉัยภาวะสมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์ ในทางคลินิกแพทย์จะใช้วิธีการซักประวัติ การตรวจร่างกาย การประเมินทางจิตประสาท การประเมินความสามารถในกิจวัตรประจำวัน เป็นต้น แต่การวินิจฉัยทางคลินิกก็อาจเกิดความคลาดเคลื่อนได้ คือ ผู้ป่วยอาจมีโรคประจำตัวอื่น เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หรือเคยเกิดอุบัติเหตุที่กระทบกับสมอง ทำให้ผู้ป่วยมีความผิดปกติทางความรู้ คิดของสมองที่คล้ายคลึงกับภาวะสมองเสื่อม ดังนั้น การวินิจฉัยทางคลินิกจึงอาจไม่เพียงพอ ทีมวิจัยจึงได้ศึกษาการตรวจวินิจฉัยภาวะสมองเสื่อมจากโรค อัลไซเมอร์ทางรังสี ซึ่งมีความไวและความจำเพาะในการวินิจฉัยประมาณ 70-90% ซึ่งสูงกว่าการตรวจวินิจฉัยทางคลินิก

          ในการศึกษาทีมวิจัยได้ทำการสังเคราะห์สารเภสัชรังสี F-18-AV-45 ขึ้น สำหรับตรวจหาการสะสมของ "โปรตีนเบต้าอะมัยลอยด์" ใน ผู้ป่วย คุณลักษณะการทำงานของสารเภสัชรังสี F-18-AV-45 คือ เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายทางหลอดเลือด แล้วสารจะมีคุณสมบัติพิเศษในการไปจับตัวกับโปรตีนเบต้าอะมัยลอยด์ เมื่อถ่ายภาพสมองผู้ป่วยด้วยเครื่องเพทสแกน ก็จะได้ข้อมูลว่า ผู้ป่วยมีโปรตีนเบต้าอะมัยลอยด์สะสมในสมองมากน้อยเพียงใด

          สำหรับ "โปรตีนเบต้าอะมัยลอยด์" นั้น เป็นสารชนิดหนึ่งที่พบในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ โดยจะไปเกาะและสะสมตามจุดต่างๆ ในเนื้อสมอง จากนั้น จะส่งผลให้เกิดการอักเสบและเป็นพิษต่อเนื้อสมอง ทำให้เซลล์สมองตาย ส่งผลให้การทำงานของสมองเสื่อมถอยลงและกระทบต่อกิจวัตรประจำวัน เช่น มีอาการหลงลืม เฉยเมย นึกคำพูดไม่ออก และเมื่ออาการของโรคดำเนินไประยะหนึ่ง ผู้ป่วยจะเริ่มสูญเสีย ความเป็นตัวเองและสูญเสียความสามารถในการดูแลตัวเองลงไปเรื่อยๆ

          รศ.พญ.ธัญญลักษณ์ กล่าวสรุปว่า การวินิจฉัยการสะสมของโปรตีนเบต้าอะมัยลอยด์ในสมอง ที่เป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ด้วยสารเภสัชรังสี F-18-AV-45 ถือว่าให้ผลที่แม่นยำเมื่อเทียบกับการวินิจฉัยทางคลินิก จึงเป็นความหวังหนึ่งที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจวินิจฉัยทางรังสีควบคู่ไปกับการวินิจฉัยทางคลินิกในอนาคต รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อแพทย์และผู้ป่วย คือ ช่วยให้แพทย์พิจารณาการให้ยาได้อย่างเหมาะสม รวมถึงโอกาสในการพัฒนายาเพื่อกำจัดหรือลดปริมาณโปรตีนเบต้าอะมัยลอยด์ก่อนที่เนื้อสมองจะถูกทำลาย อีกทั้งเป็นประโยชน์สำหรับการวางแผนการดูแลรักษาผู้ป่วยในขั้นตอนต่อๆ ไป

          ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ ผู้จัดการงานวิจัย สวรส. กล่าวว่า การวิจัยนี้มุ่งเป้าที่จะพัฒนาเครื่องมือในการคัดกรองผู้ป่วยสมองเสื่อมโดยการตรวจวินิจฉัยทางรังสี ต้นทุนหลักในการตรวจคัดกรองส่วนหนึ่ง คือ ค่าสารเภสัชรังสี ซึ่งมีราคาแพงมาก หากประเทศไทยสามารถผลิตสารเภสัชรังสีได้เองและทำให้การตรวจนี้ได้รับการยอมรับให้เป็นมาตรฐานการตรวจคัดกรอง รวมถึงได้รับการรับรองให้สามารถใช้สิทธิในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล จะทำให้มีผู้ป่วยสามารถเข้ารับการตรวจได้มาก และมีโอกาสทำให้ราคาค่าตรวจถูกลง ส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงบริการคัดกรองภาวะสมองเสื่อมมากขึ้น ตามหลักการป้องกันดีกว่ารักษา จะช่วยประหยัดงบประมาณด้านการรักษาพยาบาลของประเทศชาติต่อไป

http://www.thaihealth.or.th/Content/42056-วิจัยประเมิน'ภาวะสมองเสื่อม'.html

Tags :

 
Menu
หน้าแรก
เครือข่ายผู้บริโภค
ศูนย์ราชการสะดวก
สื่อวิทยุสมาคม
ข่าวสาร
สรุปกิจกรรม 2566
สรุปกิจกรรม 2565
สรุปกิจกรรม 2564
สรุปกิจกรรม 2563
สรุปกิจกรรม 2561
สรุปกิจกรรม 2560
สรุปกิจกรรม 2559
สรุปกิจกรรม 2558
สรุปกิจกรรม 2557
สรุปกิจกรรม 2556
สรุปกิจกรรม 2555
สรุปกิจกรรม 2554
สรุปกิจกรรม 2553
สรุปกิจกรรม 2562
การร้องเรียน
ติดต่อเรา
แผนผังเว็บไซต์
สถิติเรื่องร้องเรียน
สมัครสมาชิก
เว็บบอร์ด
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 09/12/2010
ปรับปรุง 27/04/2024
สถิติผู้เข้าชม1,746,383
Page Views2,011,566
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
view