สภาทันตแพทย์ชี้จัดฟันแฟชั่น ลามเป็นอุดฟันเถื่อน

อุปนายกสภาทันตแพทย์ ย้ำ ธุรกิจจัดฟันแฟชั่นไม่ตายง่ายๆ ระบุตอนนี้เริ่มลามเป็น 'อุดฟันเถื่อน' สุดอันตราย คนทำไม่ใช่หมอ แนะประชาชนควรมีวิจารณญาณ

นายธงชัย วชิรโรจน์ไพศาลกุล อุปนายกสภาทันตแพทย์ เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า การจัดฟันแฟชั่นเป็นสิ่งผิดกฎหมายอย่างแน่นอน แรกสุดคือ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้มีอันตรายอย่างลวด เพราะจากการสุ่มตรวจพบโลหะหนัก เป็นอันตรายต่อคนใส่ เช่น พลวง แคดเมียม สารหนู ทั้งนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกประกาศว่า เป็นสินค้าอันตรายห้ามจำหน่าย ต่อมาคือ ตัวกิจการ ซึ่งผิดกฎหมายสองฉบับ คือ คนที่รับจัดฟันแฟชั่นจะผิด พ.ร.บ.วิชาชีพทันตกรรม ส่วนสถานที่ให้บริการก็จะผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาล เพราะถือว่าเป็นคลินิกเถื่อน

สำหรับ ปัญหาเรื่องจัดฟันแฟชั่นอาจไม่ได้เป็นปัญหาที่รุนแรงมาก เพราะมีอยู่จำกัดอยู่ในวงแคบ คือ กลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน แต่ก็อาจทำให้เกิดทั้งความสูญเสีย ทั้งเงินที่นำไปจัดฟันโดยไม่จำเป็น รวมถึงอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ในช่องปากตามมา 

โดยปกติ เมื่อจัดฟันแฟชั่น ฟันของเราก็จะเปลี่ยนตำแหน่งไปตามรูปร่างของเส้นลวดแบบตามบุญตามกรรม เพราะคนทำไม่มีความรู้เรื่องการจัดฟันจริงๆ เนื่องจากการจะจัดฟันให้กับบุคคลคนหนึ่งนั้นมีขั้นตอนต่างๆ มากมาย ทั้ง การเอกซเรย์ วิเคราะห์รูปร่างของใบหน้า วางแผนการรักษา การเลือกลวด ชนิด-ขนาด ให้เหมาะสม ฯลฯ ซึ่งแม้แต่ทันตแพทย์เองยังไม่สามารถจัดฟันให้คนไข้ได้ทุกคน เพราะหมอจัดฟันถือเป็นทันตแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งคนที่ไม่ได้เรียนเฉพาะทางด้านนี้มา อยู่ๆ จะเอาลวดมาแปะก็จะทำให้ฟันเปลี่ยนตำแหน่งหรือผิดรูปไป รวมถึงตอนนี้เท่าที่ได้ข้อมูลมา มีหลายคลินิกที่ซื้อวัสดุอุปกรณ์ทันตกรรม เริ่มเขยิบไปทำเรื่องอุดฟันด้วย ทำเกิดเป็นผลเสียต่อประชาชนเป็นอย่างมาก

ส่วนการจะแก้ไขหรือรักษาในกรณีจัดฟันแฟชั่นนั้น อาจทำได้ยากและเสียค่าใช้จ่ายแพงกว่าปกติ เนื่องจากหากยิ่งจัดฟันแฟชั่นนานเท่าไร ฟันก็จะยิ่งล้มมากขึ้นเท่านั้น ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นแล้วแต่กรณีและระยะเวลาที่จัด เช่น หากมารักษาโรงพยาบาลของรัฐก็จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท แล้วแต่ความยากง่าย

อย่างไรก็ตาม หากจะไปให้ทันตแพทย์จัดฟันแฟชั่นให้นั้น ตามหลักแล้วสามารถเดินไปหาหมอฟันได้ แต่จะไม่รับจัดให้ เนื่องจากเป็นความผิดตามจรรยาบรรณของทันตแพทย์ เพราะถือว่าไม่มีประโยชน์ใดๆ กับการรักษา ทำให้คนไข้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ แต่อาจจะมีทันตแพทย์ที่บางคนที่ทำผิดกฎ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของทันตแพทย์สภาซึ่งจะเข้ามาตักเตือนในเรื่องดังกล่าว

ในเรื่องของอนาคต มองว่าเรื่องการจัดฟันแฟชั่นนี้จะมีไปเรื่อยๆ แต่อาจจะเปลี่ยนรูปแบบไป เช่น เดิมเป็นร้านค้าห้องแถว ตอนนี้อาจจะใช้ช่องทางการสื่อสารออนไลน หรือจากที่แต่เดิมใช้เป็นรีเทนเนอร์แฟชั่น ตอนนี้ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นรีไรต์เหงือก ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ ฉะนั้นแล้ว สิ่งสำคัญคือผู้บริโภคควรจะมีวิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลต่างๆ ให้รอบคอบ เพราะผลเสียที่ตามมานั้นมีมากมาย ส่วนเรื่องการควบคุมในอนาคตนั้นอาจจะเน้นไปที่การควบคุมการจัดซื้อวัสดุในการจัดฟันบางชนิด เช่น กาวที่ใช้ยึด เพื่อเป็นการตัดปัญหาตั้งแต่ต้นทาง

ทั้งนี้ หากประชาชนพบ ร้านจัดฟันเถื่อนหรือจัดฟันแฟชั่น สามารถแจ้งกับทันตแพทยสภา ซึ่งมีเพจเฟซบุ๊กรับแจ้งเรื่องนี้อยู่ คือ เพจมือปราบหมอฟันเถื่อน ซึ่งหากแจ้งเข้ามา ก็จะมีการปกปิดชื่อของผู้แจ้ง โดยผู้แจ้งควรบอกลักษณะของร้านให้ชัดเจน เช่น อยู่ที่ไหน เปิดกี่โมง มีจุดสังเกตอะไรบ้าง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะกลั่นกรองข้อมูลและส่งต่อไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดำเนินการ

http://www.thaihealth.or.th/Content/40858-สภาทันตแพทย์ชี้จัดฟันแฟชั่น%20ลามเป็นอุดฟันเถื่อน.html