อายุ35ขึ้นไปเสี่ยงโรคหัวใจหยุดเต้นฉียบพลัน
สาเหตุสำคัญมาจากโรค วิถีชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพไม่ถูกต้อง ได้แก่ เบาหวานความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง อ้วน สูบบุหรี่ ทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจแข็งตัวหรือตีบตัน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดก.สาธารณสุข ในฐานะโฆษกสาธารณสุข เผยคนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจเฉลี่ยปีละ54,000 คน หรือชั่วโมงละ 6 คน เป็นสาเหตุการตายสูงสุดสามลำดับแรกร่วมกับมะเร็งและอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่การป่วยและเสียชีวิต มักฉุกเฉิน และเกิดในคนที่ดูปกติไม่ทราบว่าเป็นโรคหัวใจมาก่อน
ผู้มีอายุ 35 ปีขึ้นไป จึงควรตรวจสุขภาพทุกปี หากผิดปกติจะได้ตรวจละเอียดหรือรับคำแนะนำเพื่อลดความเสี่ยงเกิดโรค
การลดความเสี่ยงที่เป็นปัจจัยหลักของหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ทำโดยกินอาหารสุขภาพ เช่น ผักผลไม้ ถั่ว ปลา ไม่หวาน-มัน-เค็ม ออกกำลังสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็ว 30 นาทีอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง คุมน้ำหนัก งดบุหรี่
ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์ สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจให้ออกกำลังกายปานกลาง เช่น แอโรบิกเดินเร็ว ปั่นจักรยาน วิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ำ
ที่สำคัญต้องปรึกษาแพทย์ก่อน ออกกำลังแต่พอเหมาะ เริ่มเบาๆ ค่อยเป็นค่อยไปที่สำคัญ วอร์มร่างกายก่อนและหลังออกกำลังกายทุกครั้ง
ผู้ที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันหากได้รับการช่วยเหลือถูกวิธี-ทันท่วงที จะลดอัตราเสียชีวิตได้
หากพบผู้หมดสติให้เรียก-เขย่าตัวว่ายังตอบสนองหรือไม่ ถ้าไม่ ให้สังเกตว่ากระตุกหรือชักเกร็งหรือไม่ หรือหายใจเฮือกหรือหยุดหายใจ ถ้ามีให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าหัวใจหยุดเต้นฉับพลันรีบโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ1669 และเริ่มช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานโดยนวดหัวใจหากมีเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า (หรือ AED) ให้นำมาใช้ตามคำแนะนำที่ติดอยู่ที่เครื่อง
สัญญาณอาการโรคหัวใจคือ เจ็บแน่นหน้าอกคล้ายของหนักกดทับ ปวดร้าวที่ไหล่ แขนซ้าย หายใจลำบาก หากมีอาการที่ว่าให้รีบนั่ง บอกเพื่อน-ผู้อยู่ใกล้ ส่งโรงพยาบาลใกล้ที่สุดทันที หรือ โทร.สายด่วน 1669
http://www.thaihealth.or.th/Content/39469-อายุ35ขึ้นไปเสี่ยงโรคหัวใจหยุดเต้นฉียบพลัน.html