3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ห่วงปัญหาฝนตกต่อเนื่องในช่วงนี้ ทำให้เกิดน้ำขังและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ขอความร่วมมือประชาชนใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ทั้งโรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย
นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้ ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง เกิดน้ำขังตามภาชนะหรือวัสดุต่างๆ ทำให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงตามมา ประกอบกับในช่วงฤดูฝนก็เป็นช่วงที่พบผู้ป่วยโรคจากยุงลายเพิ่มขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออก จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 25 กันยายน 2560 มีรายงานผู้ป่วยแล้ว 38,756 ราย เสียชีวิต 55 ราย จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ สงขลา พัทลุง ตาก เพชรบุรี และภูเก็ต
ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสซิกาในประเทศไทย พบว่าไม่มีการระบาดแต่อย่างใด และไม่พบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ พบเพียง 1-2 รายในแต่ละพื้นที่ ซึ่งในปี 2560 มีรายงานผู้ป่วย 403 ราย ใน 32 จังหวัด โดยเกือบทั้งหมดหายเป็นปกติแล้ว และมีจังหวัดที่ยังอยู่ในระยะควบคุมโรค 28 วัน จำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร กำแพงเพชร นนทบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร ระยอง สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ซึ่งโรคติดเชื้อไวรัสซิกาในประเทศไทย ก็สามารถพบได้ เพราะมียุงลายเป็นพาหะนำโรค เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการดังกล่าวได้ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ทุกภาคส่วน มีระบบการค้นหาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ทำให้การตรวจจับโรคติดเชื้อไวรัสซิกาได้อย่างรวดเร็ว และทำให้การควบคุมโรคสามารถดำเนินการได้อย่าง มีประสิทธิภาพ
นายแพทย์เจษฎา กล่าวต่อไปว่า ในช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นฤดูที่มียุงลายเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือให้ทุกฝ่ายดำเนินการควบคุมลูกน้ำยุงลายให้ลดลง และร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เพราะยุงลาย 1 ตัว ออกลูกได้ประมาณ 500 ตัว จึงต้องเอาจริงให้ยุงสิ้นลาย โดยดำเนินมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ได้แก่ 1.เก็บบ้านให้สะอาด โล่ง ไม่ให้มีมุมอับทึบ เป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะ เศษภาชนะรอบบ้าน โดยทำต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำ สำรวจภาชนะใส่น้ำ ต้องปิดฝาให้มิดชิด ป้องกันยุงลายไปวางไข่ เพื่อป้องกัน 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา รวมทั้งการกำจัดและควบคุมยุงตัวแก่ เช่น การพ่นสารเคมีกำจัดยุงลาย และการป้องกันไม่ให้ยุงลายกัด เช่น ทายากันยุง นอนในมุ้งหรือห้องที่มีมุ้งลวด กำจัดยุงโดยใช้ไม้ช็อตไฟฟ้า จุดสมุนไพรหรือยาจุดไล่ยุง หรือใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นต้น หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422
http://www.thaihealth.or.th/Content/38954-3%20เก็บ%20ป้องกัน%203%20โรค.html