http://www.consumerprotection.or.th
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 สิทธิและหน้าที่ของผู้บริโภค  เกี่ยวกับสมาคม  ผลการดำเนินงาน  สมัครสมาชิก  ติดต่อเรา
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
การโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทางสื่อออนไลน์
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล
สาระน่ารู้เกี่ยวกับผู้บริโภค
ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ด้านบริการทางการแพทย์
ด้านอสังหาริมทรัพย์
ด้านอื่น ๆ
บทความ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง




 

ฉีดฟิลเลอร์เถื่อนเสี่ยงตาบอด

ฉีด“ฟิลเลอร์เถื่อน”เสี่ยงตาบอด

          สมาคมแพทย์ผิวหนังฯร่วมภาคีหารือเตรียมคุมเข้มการ "ฉีดฟิลเลอร์" พร้อมเพิ่มโทษ หลังพบคนไทยฉีดจมูกแล้วทำให้ "ตาบอด" ถึง 8 ราย ระบุยังไม่มีกฎหมายห้ามฉีดฟิลเลอร์

          น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรรัตน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) แถลงข่าวเรื่อง "มาตรการกวาดล้าง สถานพยาบาลเถื่อน" ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนว่าสถานพยาบาลพีเอฟซี ย่านสุทธิสาร มีการใช้บุคลากรที่ไม่ใช่แพทย์ในการฉีดสารเติมเต็ม (ฟิลเลอร์) ที่จมูก ส่งผลให้ผู้เข้ารักษาตาบอด จากการเข้าจับกุมและตรวจสอบพบว่า สถานที่ดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นสถานพยาบาล เข้าข่ายคลินิกเถื่อนและใช้บุคคลที่ไม่ใช่แพทย์มาให้การรักษา มีโทษตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และร่วมกันประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท

          "จากการหารือร่วมกับหน่วยงานต่างๆ พบว่าปัญหาจากการศัลยกรรม โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์มีเพิ่มมากขึ้น จึงจะมีการทบทวนแนวทางการควบคุมการฉีดฟิลเลอร์ คือ 1. เร่งยกร่างปรับปรุงกฎหมายสถานพยาบาล โดยเพิ่มโทษทั้งจำคุกและปรับ สำหรับผู้ที่ลักลอบเปิดสถานพยาบาล ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและใช้สารที่ไม่ได้รับอนุญาต 2. เร่งตรวจสอบคลินิกในกลุ่มเสี่ยง 3. อบรมเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเพื่อตั้งทีมเคลื่อนที่เร็วกรณีที่พบปัญหา และ 4. ตรวจสอบสื่อโซเชียลมีเดียทุกรูปแบบให้เข้มงวดมากขึ้น โดยประชาชนสามารถช่วยกันแจ้งปัญหาได้ที่สายด่วน 0-2193-7999" อธิบดี สบส.กล่าว

          ด้าน รศ.นพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังฯ กล่าวว่า ไทยมีรายงานการฉีดฟิลเลอร์ แล้วเกิดผลกระทบจนตาบอดแล้ว 8 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากการฉีดเพื่อตกแต่งจมูก โดยมีทั้งทำในไทยและเกาหลี ส่วนต่างประเทศพบรายงาน 44 ราย ทั้งนี้ ข้อบ่งชี้การฉีดฟิลเลอร์ คือ เพื่อเติมรอยหลุมบริเวณคาง โหนกแก้ม และริมฝีปาก ส่วนบริเวณรอบดวงตาเป็นบริเวณที่อันตราย เพราะมีเส้นเลือดจำนวนมากที่ไปเลี้ยงดวงตา การฉีดพลาดจะทำให้สารเข้าไปกดทับเส้นเลือดและทำให้ตาบอดถาวรได้ทันที

          "สารเติมเต็มเป็นสารสังเคราะห์ ทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนได้หลายอย่าง ทั้งการติดเชื้อ การแพ้สารและผลข้างเคียง ที่น่าเป็นห่วงคือการเข้าไปกดทับหลอดเลือด ซึ่งการรักษาจะมีข้อบ่งชี้ในการใช้สารอย่างชัดเจน ในกรณีที่แพทย์ใช้สารต่างๆ เกินกว่าข้อบ่งชี้ ต้องใช้ดุลพินิจของแพทย์ แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องอันตรายที่ไม่สามารถยอมรับได้ เพราะทำให้เกิดการสูญเสียดวงตาอย่างถาวร แม้ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายหรือกติกาที่ชัดเจนว่า การฉีดฟิลเลอร์บริเวณจมูกไม่สามารถทำได้ จึงต้องขอความร่วมมือจากแพทย์ต่อไป อย่างไรก็ตาม ประชาชนควรมีความรู้เพื่อเลือกตัดสินใจได้ด้วยตัวเองส่วนแพทย์ที่กระทำก็จำเป็นต้องได้รับโทษที่หนักมากขึ้น" รศ.นพ.นภดลกล่าว      

          ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ฟิลเลอร์ เป็นสารที่ต้องฉีดเข้าร่างกายซึ่งต้องผ่านการอนุมัติและขึ้นทะเบียนจาก อย. ก่อน เพราะสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อ การแพ้ และเกิดพิษต่อร่างกายได้ ในการฉีดแต่ละครั้งหากประชาชนไม่มั่นใจควรขอดูกล่องและฉลากก่อนว่าผ่านการ ขึ้นทะเบียนหรือไม่ หากอย. ตรวจพบว่าเป็นการลักลอบจำหน่ายหรือนำมาใช้ ก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

           ที่มา : เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์

http://www.thaihealth.or.th/Content/ฉีด“ฟิลเลอร์เถื่อน”เสี่ยงตาบอด.html


Tags :

 
Menu
หน้าแรก
เครือข่ายผู้บริโภค
ศูนย์ราชการสะดวก
สื่อวิทยุสมาคม
ข่าวสาร
สรุปกิจกรรม 2566
สรุปกิจกรรม 2565
สรุปกิจกรรม 2564
สรุปกิจกรรม 2563
สรุปกิจกรรม 2561
สรุปกิจกรรม 2560
สรุปกิจกรรม 2559
สรุปกิจกรรม 2558
สรุปกิจกรรม 2557
สรุปกิจกรรม 2556
สรุปกิจกรรม 2555
สรุปกิจกรรม 2554
สรุปกิจกรรม 2553
สรุปกิจกรรม 2562
การร้องเรียน
ติดต่อเรา
แผนผังเว็บไซต์
สถิติเรื่องร้องเรียน
สมัครสมาชิก
เว็บบอร์ด
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 09/12/2010
ปรับปรุง 27/04/2024
สถิติผู้เข้าชม1,745,771
Page Views2,010,945
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
view