http://www.consumerprotection.or.th
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 สิทธิและหน้าที่ของผู้บริโภค  เกี่ยวกับสมาคม  ผลการดำเนินงาน  สมัครสมาชิก  ติดต่อเรา
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
การโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทางสื่อออนไลน์
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล
สาระน่ารู้เกี่ยวกับผู้บริโภค
ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ด้านบริการทางการแพทย์
ด้านอสังหาริมทรัพย์
ด้านอื่น ๆ
บทความ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง




 

สังเกตลูกมีปัญหาที่ ร.ร. หรือไม่

พ่อแม่ควรสังเกตลูก มีปัญหาที่ ร.ร. หรือไม่

          พญ.พรรณพิมล วิปุลากรรองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีที่เด็กนักเรียนชั้นป.6 อายุ 11 ปี ที่อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ใช้มีดที่พกมาจากบ้านแทงเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกันเสียชีวิตหลังจากชกต่อยกันว่า กรณีเช่นนี้ด้วยวัยเด็กเพียงเท่านี้ไม่น่าจะมีเจตนาหรือวางแผนเพื่อทำร้ายเพื่อนให้ถึงแก่ชีวิต เพียงต้องการการโต้ตอบรุนแรงกลับไปบ้างเท่านั้น

          วิธีการนี้เป็นวิธีคิดแบบเด็กๆ ที่สำคัญ พ่อแม่ควรดูแลลูกในครอบครัวระมัดระวังไม่ให้เด็กเข้าถึงอาวุธทุกประเภท ถ้าพ่อแม่ดูแลลูกก็ควรพอที่จะรู้ว่าในประเป๋านักเรียนของลูกมีอะไรบ้าง ซึ่งการที่เด็กพกมีดไปโรงเรียนเป็นสิ่งที่ไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้น

          ทั้งนี้พ่อแม่ควรสังเกตลูกโดยเฉพาะเมื่อกลับจากโรงเรียนว่า ลูกมีปัญหาที่โรงเรียน ถูกเพื่อนแกล้งล้อเลียนหรืออื่นๆหรือไม่ เช่น อาจจะซึมลง โดยพ่อแม่ควรเข้าไปพูดคุยจะทำให้ได้ข้อมูลว่าสาเหตุเกิดจากอะไร วิธีการถูกแกล้งหรือรังแกในโรงเรียนเป็นอย่างไรและติดตามดูปัจจัยแวดล้อม กลุ่มที่แกล้ง ช่วงเวลาที่ถูกแกล้ง เพื่อช่วยหาวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง และหลีกเลี่ยง

          รวมทั้งต้องดูว่าลูกมีสัมพันธภาพกับเพื่อนคนอื่นๆ เป็นอย่างไรด้วย เพราะหากเด็กอยู่กับเพื่อนเป็นกลุ่มจะลดการตกเป็นเป้าหมายในการถูกกลั่นแกล้ง แต่ถ้าปลีกตัว ไม่สนใจใคร ไม่เข้ากลุ่มกับเพื่อน โอกาสถูกแกล้งมีมาก จนกดดันให้ใช้ความรุนแรง แต่สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรทำ คือ การดุลูกซ้ำว่าปล่อยให้เพื่อนแกล้งได้อย่างไร หรือสอนให้ลูกสู้กลับจะเป็นการผลักลูกสู่ความเสี่ยง

          พญ.พรรณพิมล กล่าวอีกว่า ปัญหาการกลั้นแกล้งกันของเด็กในโรงเรียนไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีหลายโรงเรียนเริ่มคุยกับเด็กว่าโรงเรียนไม่สนับสนุนให้มีการแกล้งกันเกิดขึ้นในโรงเรียนเมื่อมีปัญหาโรงเรียนจะรีบแก้ไข ทั้งนี้ เด็กที่จะมีแนวโน้มใช้ความรุนแรงมี 3 แบบ ได้แก่ 1. เด็กที่มีแนวโน้มคุมตัวเองไม่ดี 2. มีความไม่ปกติหรือภาวะป่วยบางอย่าง ทำให้การจัดการปัญหาไม่ค่อยดร เช่น มีภาวะทางสมองและ3. เป็นผู้ถูกกระทำซ้ำๆ แล้วไม่ได้รับการเสนอแนะทางออกที่ถูกต้อง หรือวิธีแก้ปัญหาที่ดี ทำให้เกิดความคิดแบบเด็กๆในการโต้กลับด้วยความรุนแรง

          อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 กลุ่ม หากพ่อแม่ให้ความใกล้ชิด สังเกตและดูแลลูกจะช่วยหาทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เนื่องจากเด็กยังแก้ปัญหาเองไม่ได้ ช่วยป้องกันไม่ให้ลูกใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา

          วันเดียวกัน นางอนงค์ เชาวนะกิจ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 กล่าวถึงกรณีนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่ขรี (สวิงประชาสรรค์) อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ใช้อาวุธมีดพกแทงเพื่อนนักเรียนบริเวณเข้าใต้รักแร้จนทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตภายหลังจากนำตัวส่งโรงพยาบาลตะโหมด เนื่องจากบาดแผลถูกแทงลึกตัวขั้วหัวใจ ว่า ได้เข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่า เด็กที่ทะเลาะวิวาทกันจนแทงเพื่อนนักเรียนเสียชีวิตนั้น เป็นคู่ทะเลาะวิวาทกันอยู่แล้ว

          อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองนักเรียนที่เสียชีวิตซึ่งเป็นมุสลิมได้ฝังศพเด็กไปแล้ว และก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก เพราะเข้าใจว่าเป็นเรื่องของเด็กทะเลาะกัน ขณะเดียวกับทางโรงเรียนก็ได้ใช้เงินสวัสดิการเยียวยาครอบครัวนักเรียนที่เสียชีวิตไปแล้ว ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็ได้ส่งคนมาเยี่ยมครอบครัวนักเรียนด้วย ส่วนนักเรียนที่ก่อเหตุนั้นอยู่ในสภาพเสียขวัญเพราะไม่คาดคิดว่า เรื่องจะเป็นแบบนี้ ทั้งนี้ ได้รายงานข้อมูลมายัง สพฐ.แล้วตั้งแต่วันเกิดเหตุ 20 พ.ค.แล้ว

           ที่มา : หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย 

http://www.thaihealth.or.th/Content/24363-พ่อแม่ควรสังเกตลูก%20มีปัญหาที่%20ร.ร.%20หรือไม่.html

Tags :

 
Menu
หน้าแรก
เครือข่ายผู้บริโภค
ศูนย์ราชการสะดวก
สื่อวิทยุสมาคม
ข่าวสาร
สรุปกิจกรรม 2566
สรุปกิจกรรม 2565
สรุปกิจกรรม 2564
สรุปกิจกรรม 2563
สรุปกิจกรรม 2561
สรุปกิจกรรม 2560
สรุปกิจกรรม 2559
สรุปกิจกรรม 2558
สรุปกิจกรรม 2557
สรุปกิจกรรม 2556
สรุปกิจกรรม 2555
สรุปกิจกรรม 2554
สรุปกิจกรรม 2553
สรุปกิจกรรม 2562
การร้องเรียน
ติดต่อเรา
แผนผังเว็บไซต์
สถิติเรื่องร้องเรียน
สมัครสมาชิก
เว็บบอร์ด
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 09/12/2010
ปรับปรุง 27/04/2024
สถิติผู้เข้าชม1,745,763
Page Views2,010,937
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
view