เตือนหวัดใหญ่ปีนี้ระบาดหนัก

กระทรวงสาธารณสุขชี้สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ปีนี้หนัก พบ 4 เดือนป่วยแล้ว 30,024 ราย เสียชีวิต 50 ราย ขณะที่ปี 2556 ไม่พบผู้เสียชีวิต เตรียมมาตรการเฝ้าระวังช่วงหน้าฝน คาดระบาดระลอกสอง

         นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การเจ็บป่วยของประชาชนจากโรคไข้หวัดใหญ่ว่า เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 พบว่าปีนี้ประชาชนป่วยมากขึ้น ตั้งแต่ต้นปี 2557 จนถึงวันที่ 25 เมษายน สำนักระบาดวิทยาได้รับรายงานจากทั่วประเทศป่วย 30,024 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปี 2556 ถึงร้อยละ 36 ผู้เสียชีวิต 50 ราย ขณะที่ตลอดปี 2556 ไม่มีผู้เสียชีวิต คณะผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์ว่า เชื้อที่เป็นสาเหตุการป่วยส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลสายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) หรือไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งเป็นเชื้อตัวล่าสุดที่พบระบาดทั่วโลก รวมทั้งไทยด้วยในปี 2552 จัดเป็นเชื้อที่มีความรุนแรงกว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลสายพันธุ์อื่นๆ ทั้งนี้ คนไทยส่วนใหญ่ยังมีภูมิต้านทานต่อเชื้อชนิดนี้น้อย จึงมี ความเป็นไปได้ที่จะพบผู้ป่วยมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่สายพันธุ์นี้ไม่เคยระบาดมาก่อน แม้แนวโน้มในสัปดาห์นี้ ผู้ป่วยเริ่มน้อยลงจากสัปดาห์ละประมาณ 2,000 รายเหลือ 500 กว่าราย แต่จะกลับมาระบาดระลอกสองในช่วงฤดูฝนแน่นอน

          นพ.ณรงค์กล่าวว่า ขณะนี้ได้กำชับ 3 มาตรการหลัก คือ 1.ให้โรงพยาบาลและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทุกแห่งประสานโรงพยาบาลรัฐและเอกชนดำเนินการเฝ้าระวังผู้ป่วยที่มีอาการป่วยไข้หวัดทุกชนิด โดยหากเข้าตรวจที่แผนกผู้ป่วยนอกมากกว่าร้อยละ 5 ของผู้ป่วยนอกทั้งหมด ให้จัดช่องทางบริการพิเศษ ไม่ให้ปะปนกับผู้ป่วยอื่นๆ และให้ผู้ป่วยทุกรายสวมหน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่เชื้อ 2.กำชับแพทย์ที่ตรวจรักษา รวมทั้งพยาบาล ขอให้เพิ่มการซักประวัติผู้ป่วยที่มาด้วยอาการหวัด ไข้ ไอ เจ็บคอ คัดจมูก มีน้ำมูก ปวดเมื่อย อาเจียน ท้องเสีย หากมีประวัติหลังป่วย 2 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ให้นึกถึงโรคไข้หวัดใหญ่ รับตัวไว้นอนรักษาในโรงพยาบาล และให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ทันที ในจำนวนผู้เสียชีวิต 50 ราย ร้อยละ 40 เป็นผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวและไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง จึงต้องเริ่มให้ยาต้านไวรัสให้เร็ว ซึ่งจะให้ผลดีหากให้ยาภายใน 48 ชั่วโมงหลังมีอาการป่วย และ 3. ฉีดวัคซีนแก่กลุ่มเสี่ยงต่างๆ ทั้งสตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ฯลฯ เริ่มฉีดวันแรกคือ 1 พฤษภาคมนี้ อีกทั้ง สธ.ได้ตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่เป็นการเฉพาะ 1 ชุด เพื่อเป็นที่ปรึกษาให้แก่แพทย์ทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง

          นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ทั่วโลกพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่มีอาการรุนแรงปีละ 3-5 ล้านราย เสียชีวิตประมาณ 2-5 แสนราย การป้องกันโรคขอให้ประชาชนหมั่นออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 วัน เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานโรคตามธรรมชาติ รับประทานผักผลไม้สดเพื่อเพิ่มวิตามินซี หมั่นล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ เพราะจะกำจัดเชื้อโรคที่ติดมากับมือได้ถึงร้อยละ 80

          ที่มา: กระทรวงสาธารณสุข

http://www.thaihealth.or.th/Content/24000-เตือนหวัดใหญ่ปีนี้ระบาดหนัก.html