แนะดูแลร่างกาย ในช่วงอากาศหนาวเย็น
สคร.3 ชลบุรี กรมควบคุมโรค แนะการป้องกันและดูแล ภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ (Hypothermia) ในช่วงอากาศหนาวเย็น
ภาวะอากาศหนาวเย็นในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนตุลาคม-มกราคม ของทุกๆ ปี ได้ส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์ การเกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำลง หรือการที่ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอันตรายอย่างหนึ่งของผลจากการสัมผัสอากาศหนาวเย็นที่รุนแรงและอาจเสียชีวิตได้ง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก คนสูงอายุหรือผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ประจำตัว ได้แก่ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ปอดอักเสบเรื้อรัง หอบหืด เป็นต้น
นอกจากปัจจัยด้านสุขภาพแล้วพฤติกรรมเสี่ยงสำคัญของการเกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ คือ การดื่มแอลกอฮอล์ การแช่ เล่นน้ำในช่วงอากาศหนาว การสวมเสื้อผ้าเปียก หรือสวมเครื่องนุ่งห่มไม่พอต่อการป้องกันความหนาวเย็น การนอนในที่โล่งแจ้ง เป็นปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตจากภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำลง
สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์การเสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องจากภาวะอากาศ (Cold-Weather related Deaths Surveillance Report) โดยรวบรวม ตรวจสอบข้อมูลการเสียชีวิตที่อาจเกี่ยวเนื่องกับภาวะอากาศหนาวเย็น ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม -18 ธันวาคม 2556 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีภัยหนาว ในพื้นที่จังหวัดที่มีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเกิน 3 วัน จำนวน 9 จังหวัด 42 อำเภอ 274 ตำบล 2,986 หมู่บ้าน 445,914 ครัวเรือน และ 1,471,429 คน ดังนี้ เลย (5 อำเภอ) ตาก (6 อำเภอ) น่าน(4 อำเภอ) เชียงใหม่ (6 อำเภอ) นครพนม (10 อำเภอ) หนองบัวลำภู (6 อำเภอ) แพร่ (2 อำเภอ) เชียงราย (1 อำเภอ) และอุตรดิตถ์ (2 อำเภอ) ทั้งนี้จากการติดตามข้อมูลผู้เสียชีวิต พบว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิต ทั้งสิ้น 12 ราย ได้รับการสอบสวนการเสียชีวิตและเข้าเกณฑ์ 2 ราย และรอรายงานการสอบสวนการเสียชีวิต 10 ราย
การป้องกันภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ (Hypothermia prevention)
1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศหนาวเย็น และให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายให้เพียงพอ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก และผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป รวมทั้ง ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และภาวะทางจิต รวมทั้งคนเร่ร่อน ที่ไม่มีที่อยู่อาศัยฯ
2. ให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน เพื่อป้องกันภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ ดังนี้
2.1 หลีกเลี่ยงการดื่มสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อคลายความหนาว จะทำให้เส้นเลือดขยายตัวมากขึ้น เกิดการสูญเสียความร้อนจากผิวหนังอย่างรวดเร็ว
2.2 การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
2.3 ผู้ป่วยที่มีประวัติโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ระบบทางเดินหายใจ โรคขาดอาหาร โรคข้ออักเสบอย่างรุนแรง การบาดเจ็บ แผลไม้ ที่อาจมีผลต่อประสาทรับความรู้สึก หรือการสูญเสียน้ำได้ง่าย
2.4 การรับประทานอาหารอย่างเพียงพอโดยเฉพาะอาหารที่ให้พลังงาน เช่น แป้ง และไขมัน ดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ เช่น นมร้อน น้ำอุ่นๆ หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มผสมคาเฟอีน
3. จัดหาเครื่องนุ่งห่ม ป้องกันอากาศหนาวเย็นให้เพียงพอ
4. จัดตั้งศูนย์ป้องกันดูแลผลกระทบจากอากาศหนาวในชุมชน รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ
5. การรายงานผู้ป่วยภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำหรือผู้ได้รับผลกระทบจากภาวะอากาศหนาวเย็นให้หน่วยงานสาธารณสุขทราบทันที
ที่มา : สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
เรียบเรียงโดย : กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ