กรมวิทย์ฯ เผยยังไม่พบผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัส2012
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยยังไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อโรคโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012 พบส่วนใหญ่มีสาเหตุจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ถึงร้อยละ 25
นายแพทย์อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากรายงานของกรมควบคุมโรคว่ามีผู้ที่ไปร่วมแสวงบุญในพิธีฮัจญ์ ณ กรุงเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้ทยอยเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยครบถ้วนแล้วตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.2556 ที่ผ่านมาตามกำหนดการ 106 เที่ยวบิน จำนวน 10,389 คน ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างจากผู้ป่วยที่เข้าข่ายเฝ้าระวังโรคโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012 ด้วยวิธี real time RT-PCR ระหว่างวันที่ 22 ต.ค.-20 พ.ย. 2556 จำนวน 246 ตัวอย่าง ไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อโรคโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012 พบส่วนใหญ่มีสาเหตุจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ถึงร้อยละ 25 โดยแยกเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด A(H1N1)ร้อยละ 55.55 ไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N3) ร้อยละ 35.55 และไข้หวัดใหญ่ชนิด B ร้อยละ 8.90 อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้มีมาตรการในการเฝ้าระวังติดตามสุขภาพผู้แสวงบุญเป็นระยะเวลา 30 วัน นับจากเดินทางกลับจากประเทศซาอุดีอาระเบีย
เชื้อไวรัสโคโรน่าโดยทั่วไป เป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจหรือระบบอื่นๆ ในคนและสัตว์ โดยอาจมีความรุนแรงของอาการที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เช่น เป็นไข้หวัดธรรมดา หูชั้นกลางอักเสบ เป็นต้น ส่วนเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 ที่เพิ่งค้นพบและระบาดอยู่แถบประเทศทางคาบสมุทรอาระเบีย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตมีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงร่วมกับไตวาย
ดังนั้นผู้ที่เดินทางกลับจากพิธีฮัจญ์ควรสังเกตอาการผิดปกติต่ออีก 30 วัน หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกควรพักผ่อนอยู่กับบ้านและปฏิบัติตามมาตรการลดการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้างโดยการใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วันหรือมีอาการไข้สูงหอบ เหนื่อยหายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทางในต่างประเทศที่ผ่านมา เพื่อให้การดูแลอย่างถูกต้องและทันท่วงที หากมีข้อสงสัยให้สอบถามที่สายด่วน 1422 หรือทางเว็บไซต์ www.ddc.moph.go. thตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า