http://www.consumerprotection.or.th
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 สิทธิและหน้าที่ของผู้บริโภค  เกี่ยวกับสมาคม  ผลการดำเนินงาน  สมัครสมาชิก  ติดต่อเรา
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
การโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทางสื่อออนไลน์
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล
สาระน่ารู้เกี่ยวกับผู้บริโภค
ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ด้านบริการทางการแพทย์
ด้านอสังหาริมทรัพย์
ด้านอื่น ๆ
บทความ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง




 

กรมอนามัยแนะป่วยเบาหวานลดหวาน-เค็ม

กรมอนามัย แนะป่วยเบาหวานลดบริโภคหวาน-เค็ม

 

กรมอนามัยเตือนประชาชนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ลดการบริโภคอาหารหวาน มัน และเค็ม เพราะจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้มากขึ้น

 

ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมให้คนไทยบริโภคอาหาร ลดหวาน ลดเค็ม เพื่อลดปัญหาสุขภาพทั้งภาวะโภชนาการกินและเบาหวานที่ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการบริโภคน้ำตาลเกินกว่ามาตรฐานกำหนด 3 เท่า คือ กินน้ำตาลสูงถึงคนละ 29.6 กิโลกรัม ต่อปี หรือเฉลี่ยวันละ 20 ช้อนชา ขณะที่ค่ามาตรฐานกำหนดให้บริโภคได้ไม่เกินคนละ 10 กิโลกรัมต่อปี หรือเฉลี่ยวันละ 6 ช้อนชาเท่านั้น เท่ากับว่าคนไทยบริโภคน้ำตาลมากเกิน ที่สำคัญร่างกายไม่จำเป็นต้องได้พลังงานจากน้ำตาลมากขนาดนั้น ซึ่งอาจจะมีผลเสียต่อสุขภาพได้

 

ปกติคนไทยบริโภคน้ำตาลทางตรงคือ การเติมน้ำตาลลงในอาหารประเภทต่างๆ ขณะเดียวกันการบริโภคน้ำตาลทางอ้อมก็เป็นปัญหาต่อสุขภาพ โดยเฉพาะน้ำตาลที่อยู่ในผลไม้รสหวานเป็นสิ่งที่ต้องระวังสำหรับผู้ป่วยโรค ไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน และผู้ต้องการควบคุมน้ำหนักไม่ให้ได้รับน้ำตาลมากเกินความต้องการของร่างกาย เพราะน้ำตาลในผลไม้ไม่ได้มีแต่กลูโคส หรือซูโครสที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนให้เป็นกลูโคสได้ในเวลาที่รวดเร็ว แต่ยังมีฟรุ๊กโตสที่มีความหวานและให้พลังงานแก่ร่างกายได้โดยไม่ต้องใช้ อินซูลิน ผู้ป่วยเบาหวานจึงต้องเลือกชนิดของผลไม้ที่จะรับประทานและในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะผลไม้ ที่มีความหวานมากบางชนิดนอกจากจะมีน้ำตาลสูงแล้วยังมีไขมันด้วย ถ้ารับประทานในปริมาณที่มากเกินไปจะมีผลเสียต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น

 

"ทั้งนี้ ผู้ป่วยเบาหวานร่างกายยังคงต้องการพลังงานจากสารอาหารคาร์โบไฮเดรตที่มี แหล่งอาหาร ส่วนใหญ่ มาจากกลุ่มอาหารข้าว แป้ง เป็นหลัก และมาจากผลไม้บางส่วน" 

 

ดังนั้น การรับประทานอาหารเพื่อให้ได้พลังงานในแต่ละวันควรจะมีการแบ่งปริมาณและชนิดของแหล่งอาหารที่ให้พลังงานทั้งวันต้องสอดคล้องกับการที่ร่างกายต้องใช้ พลังงานในการดำเนินชีวิตเพื่อไม่ให้มีพลังงานเหลือที่จะนำไปสร้างเป็นไตรกลีเซอไรด์ รวมทั้งเป็นการควบคุมระดับไตรกลีเซอไรด์ด้วย ซึ่งวิธีการ ที่ดีคือควบคุมอาหารรสหวาน เค็ม ให้น้อยลงและให้อาหารแต่ละมื้อมีความหลากหลายมากขึ้น ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้มีสุขภาพดีตามมา"

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/news/37434

Tags :

 
Menu
หน้าแรก
เครือข่ายผู้บริโภค
ศูนย์ราชการสะดวก
สื่อวิทยุสมาคม
ข่าวสาร
สรุปกิจกรรม 2566
สรุปกิจกรรม 2565
สรุปกิจกรรม 2564
สรุปกิจกรรม 2563
สรุปกิจกรรม 2561
สรุปกิจกรรม 2560
สรุปกิจกรรม 2559
สรุปกิจกรรม 2558
สรุปกิจกรรม 2557
สรุปกิจกรรม 2556
สรุปกิจกรรม 2555
สรุปกิจกรรม 2554
สรุปกิจกรรม 2553
สรุปกิจกรรม 2562
การร้องเรียน
ติดต่อเรา
แผนผังเว็บไซต์
สถิติเรื่องร้องเรียน
สมัครสมาชิก
เว็บบอร์ด
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 09/12/2010
ปรับปรุง 27/04/2024
สถิติผู้เข้าชม1,747,563
Page Views2,012,749
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
view