http://www.consumerprotection.or.th
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 สิทธิและหน้าที่ของผู้บริโภค  เกี่ยวกับสมาคม  ผลการดำเนินงาน  สมัครสมาชิก  ติดต่อเรา
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
การโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทางสื่อออนไลน์
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล
สาระน่ารู้เกี่ยวกับผู้บริโภค
ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ด้านบริการทางการแพทย์
ด้านอสังหาริมทรัพย์
ด้านอื่น ๆ
บทความ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง




 

สธ.ห่วงเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ ‘ติดไลน์’

กระทรวงสาธารณสุข ห่วงเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ติดแอพพลิเคชั่นไลน์ในโทรศัพท์สมาร์ทโฟน อาจก่อผลเสียทำให้มีพฤติกรรมแข็งกระด้าง ชีวิตในวัยเด็กเปลี่ยนแปลงไป

 

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มีความห่วงใยพฤติกรรมคนไทยในการใช้โทรศัพท์มือถือในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะชนิดสมาร์ทโฟน ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นทั้งผู้ใหญ่และเด็ก โดยเฉพาะโปรแกรมแอพพลิเคชั่นไลน์ (LINE) ที่นิยมใช้ในการส่งข้อความ เช่น ส่งการบ้าน ข้อความสั้น ส่งรูปถ่ายส่วนตัว รูปทั่วไป คลิปเสียง สติ๊กเกอร์ต่างๆ และใช้ฟรีตลอดเวลา โดยผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดในปี 2555 พบว่า ในกลุ่มประชาชนอายุ 6 ปีขึ้นไป ใช้โทรศัพท์มือถือจำนวน 44 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 70 ของประชากรทั้งประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในเขตกทม. มีการใช้มากที่สุดร้อยละ 84 ภาคกลางร้อยละ 75 ภาคเหนือร้อยละ 68 ภาคใต้ร้อยละ 67 และต่ำสุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือใช้ร้อยละ 64

 

นายสรวงศ์กล่าวต่อว่า การเล่นไลน์มีทั้งผลดีและผลเสีย ในด้านดีอาจสร้างความสะดวกในการสื่อสารโดยเฉพาะในสถานที่งดการใช้เสียง รวดเร็วทั้งภาพและเสียง ประหยัดไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์ ส่วนเรื่องผลกระทบที่เป็นห่วง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ยังมีวุฒิภาวะน้อยหากผู้ปกครองไม่ชี้แนะ ดูแล ควบคุมการใช้อย่างจริงจัง อาจจะเกิดผลกระทบทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ที่น่าห่วงก็คือการเกิดพฤติกรรมก้มหน้า สังคมก้มหน้า การสื่อสารแบบเผชิญหน้าจะลดน้อยลง และอาจนำไปใช้เป็นประจำจนติดเป็นนิสัย ผู้ใช้อยู่ในโลกส่วนตัวมากเกินไป ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ขาดความระมัดระวัง อาจเกิดปัญหาอุบัติเหตุจราจรได้ง่ายขึ้น และเด็กมีโอกาสรับรู้สิ่งต่างๆในสังคมออนไลน์ได้ตลอดเวลา

 

นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน โดยเฉพาะโปรแกรมยอดนิยม เช่น แอพพลิเคลชั่นไลน์   เด็กวัยรุ่นปัจจุบัน นิยมเล่นกันมาก บางคนเล่นทุกวัน จนอาจทำให้เด็กสูญเสียการใช้ชีวิตประจำวันของวัยเด็กที่ควรจะเป็นเช่น การพัฒนาการเรียนรู้เรื่องสัมพันธภาพ การวางตัว การชีวิตในห้องเรียน การทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อน ซึ่งเป็นจุดเริ่มพัฒนาการที่สำคัญของวัยรุ่น การเล่นจนติดเป็นนิสัยจะทำให้เด็กมีพฤติกรรมที่แข็งกระด้าง เพราะใช้ชีวิตทางการสื่อสารทางตัวหนังสือ หรือใช้ภาพการ์ตูนสะท้อนภาวะอารมณ์แทนที่พฤติกรรมจริงที่มีโอกาสแต่ไม่ได้กระทำ

 

ดังนั้นผู้ปกครอง ควรวางกติกาให้กับเด็กในการเล่น ทั้งกำหนดเวลา จำกัดเวลาในการเล่น ไม่ให้มีการใช้ในช่วงเวลาไม่เหมาะสม เช่น ในเวลาเรียน เวลากลางคืนที่ควรนอน หากทำไม่ได้ต้องมีบทลงโทษเพื่อการเรียนรู้เช่น งดค่าโทรศัพท์ ค่าเติมเงิน ค่าอินเตอร์เน็ต นอกจากนั้นยังต้องกำกับดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด โดยการสอนและให้ข้อคิดในการใช้งาน กระตุ้นให้เด็กคิด และชื่นชมเด็กเมื่อทำตามเพื่อสร้างแรงจูงใจเชิงบวกให้มีพฤติกรรมการใช้ที่ดี

 

นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อว่า ขณะนี้สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ได้เปิดให้บริการปรึกษาแก่เด็กและผู้ปกครองที่มีบุตรหลานติดโทรศัพท์มือถือ หรือติดเกมส์ โดยให้คำปรึกษาผ่านทางโทรศัพท์ หมายเลข 02-248-8990 สำหรับกรุงเทพฯและปริมณฑลบริการในเวลาราชการ หรือโทรสายด่วนสุขภาพจิต หมายเลข 1323 สำหรับ24 ชั่วโมงให้บริการทั่วประเทศ

 

ที่มา : สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/news/36176

Tags :

 
Menu
หน้าแรก
เครือข่ายผู้บริโภค
ศูนย์ราชการสะดวก
สื่อวิทยุสมาคม
ข่าวสาร
สรุปกิจกรรม 2566
สรุปกิจกรรม 2565
สรุปกิจกรรม 2564
สรุปกิจกรรม 2563
สรุปกิจกรรม 2561
สรุปกิจกรรม 2560
สรุปกิจกรรม 2559
สรุปกิจกรรม 2558
สรุปกิจกรรม 2557
สรุปกิจกรรม 2556
สรุปกิจกรรม 2555
สรุปกิจกรรม 2554
สรุปกิจกรรม 2553
สรุปกิจกรรม 2562
การร้องเรียน
ติดต่อเรา
แผนผังเว็บไซต์
สถิติเรื่องร้องเรียน
สมัครสมาชิก
เว็บบอร์ด
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 09/12/2010
ปรับปรุง 27/04/2024
สถิติผู้เข้าชม1,747,224
Page Views2,012,410
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
view