สธ.ทำแผนแม่บทสร้างส้วมนั่งราบ ลดปัญหาเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ รับสังคมสูงอายุใน 13 ปีข้างหน้า เผยที่ผ่านมาการใช้ส้วมนั่งยองติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ หลายปี เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อม ถึงร้อยละ 86.0
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานแถลงข่าว"การใช้ส้วมนั่งราบ : ส้วมเพื่อแม่" ว่า โครงสร้างอายุของประเทศไทยกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ประชากรผู้สูงอายุไทย มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10.7 หรือประมาณ 7 ล้านคน ในปี 2550 เป็นร้อยละ 11.7 หรือประมาณ 7.5 ล้านคน ในปี 2553 แสดงว่าขณะนี้ ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และคาดว่าประชากรผู้สูงอายุไทย จะเพิ่มเป็นร้อยละ 20.0 หรือประมาณ 14.5 ล้านคน ในปี 2568 และจะเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในอีก 13 ปีข้างหน้า ซึ่งหนึ่งปัญหาที่จะตามมา คือ ความเสื่อมของร่างกาย โดยเฉพาะโรคข้อเข่าเสื่อม เป็นโรคที่พบมากที่สุดโรคหนึ่งในผู้สูงอายุ หรือในวัยกลางคน ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้น
นายสรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า จากสถิติผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อในไทย ของมูลนิธิโรคข้อในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พบว่า ปี 2549 ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมกว่า 6 ล้านคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่ง เกิดจากการใช้ส้วมนั่งยองติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ หลายปี เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อมได้ เนื่องจากพฤติกรรมการขับถ่ายของเสียของคนไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบัน นิยมใช้ส้วมนั่งยองในครัวเรือน ร้อยละ 86.0 สำหรับการใช้ส้วมนั่งราบหรือส้วมห้อยขา ร้อยละ 13.2 ของครัวเรือนทั้งหมด ในปี 2553
กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย จึงได้ให้ความสำคัญเรื่องของสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ จึงจัดทำแผนแม่บทพัฒนาส้วมสาธารณไทย ระยะที่ 3 (พ.ศ.2556-2559) และคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำแผนดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อส่งเสริมให้ครัวเรือนมีและใช้ส้วมนั่งราบ หรือมีอุปกรณ์ช่วยสำหรับผู้สูงอายุและผู้มีปัญหาข้อเข่าให้ได้ร้อยละ 90 และส้วมสาธารณะ ให้ได้ร้อยละ 100 ภายในปี 2559
ที่มา : เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์
http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/news/35721