สคร.ย้ำเตือนมาตรการยับยั้งไข้เลือดออก
สคร.5 ย้ำเตือน มาตรการ 5 ป 1 ข ยับยั้งโรคไข้เลือดออก
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์ไข้เลือดออกทั่วประเทศ เพียงครึ่งปี มีผู้ป่วยกว่า 30,000 ราย เกินครึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เหตุหน้าฝน ยุงลายเกิดใหม่เพิ่มจำนวนขึ้น แนะหากผู้ป่วยมีอาการหน้าแดง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก และมีไข้สูงติดต่อกันเกิน 2 วัน ควรรีบไปพบแพทย์ พร้อมเน้นย้ำ ใช้มาตรการ 5 ป 1 ข ป้องกันโรคไข้เลือดออก
นายแพทย์ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา กล่าวถึง สถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกว่า น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเป็นฤดูกาลระบาดของโรคนี้ ทำให้มียุงลายเกิดใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งยุงลายชอบกัดดูดเลือดคนในเวลากลางวัน และอาจกัดตอนกลางคืนได้เช่นกัน ดังนั้นความเสี่ยงถูกยุงกัดจึงมีมากขึ้น รวมทั้งยุงลายแพร่พันธุ์แบบทวีคูณ ออกไข่ครั้งละ 100-200 ฟอง แม้กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายมาตั้งแต่ต้นปีก็ตาม พบมีผู้ป่วยเฉลี่ยทั่วประเทศ ถึงวันละ 570 ราย และผู้ป่วยเกินครึ่งนั้น เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี
ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา กล่าวต่อไปว่า ขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมมือกันทำความสะอาด และปรับปรุงสภาพแวดล้อมของบ้านและชุมชน เพื่อให้ปลอดจากไข้เลือดออก และสามารถนำมาตรการป้องกันโรคไข้เลือดออก 5ป 1ข มาใช้ ได้แก่ ปิด เปลี่ยน ปล่อย ปรับปรุง ปฏิบัติเป็นประจำ และขัดภาชนะที่มีคราบไข่ยุงเกาะอยู่ คือ
1.ปิดฝาภาชนะกักเก็บน้ำ
2.เปลี่ยนถ่ายน้ำทุก 7 วัน เช่น แจกันดอกไม้ ถังเก็บน้ำสำหรับอาบ
3.ปล่อย ปลาหางนกยูงหรือปลากินลูกน้ำลงในอ่างบัว หรือที่กักเก็บน้ำที่ไม่มีฝาปิด
4.ปรับปรุง สิ่งแวดล้อมไม่ให้มีน้ำขังในที่ต่างๆ โดยเฉพาะยางรถยนต์
5.ปฏิบัติการดังกล่าวข้างต้นเป็นประจำทุกสัปดาห์
แต่ในช่วงฤดูร้อนต่อช่วงฤดูฝนต้องขอเพิ่ม 1ข คือ ขัดภาชนะที่เคยใช้กักเก็บน้ำก่อนนำมารองรับน้ำครั้งใหม่ เพราะภายในภาชนะดังกล่าว อาจจะมีไข่ยุงเกาะติดอยู่ เมื่อมีน้ำมาหล่อเลี้ยง ไข่ยุงจะสามารถฟักตัวเป็นลูกน้ำภายใน 20–60 นาที ไข่ยุงนี้จะมีอายุยืนเป็นปี แม้จะอยู่ในภาวะแห้งแล้ง
ที่มา : สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์