ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่นิยมซื้อหาที่พักอาศัยอยู่ในตัวเมืองตามคอนโดมิเนียม ซึ่งมีข้อดีหลายประการ อาทิ ความสะดวกสบาย ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพิ่มเวลาในการพักผ่อน การทำกิจกรรมอื่นๆ การดูแลรักษาก็ง่ายกว่าบ้านเพราะพื้นที่ใช้สอยไม่มาก ตลอดจนบางรายซื้อหาเอาไว้เพื่อเป็นการลงทุน เหตุผลดังกล่าวทำให้ยอดขายคอนโดมิเนียมพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โครงการต่างๆ ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด จากสถิติการจดทะเบียนอาคารชุดในปี ๒๕๕๓ ของสำนักส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กรมที่ดิน พื้นที่กรุงเทพมหานคร มีการก่อสร้างคอนโดมิเนียมใหม่ จำนวน ๒๒,๖๑๙ ยูนิต ในส่วนของต่างจังหวัด จำนวน ๑๗,๓๓๔ ยูนิต
จากความต้องการและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐที่เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อบ้านหลังแรกราคาไม่เกิน ๓ ล้านบาท ได้รับการยกเว้นดอกเบี้ยใน ๒ ปีแรก และแนวโน้มที่มีการเร่งพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับเส้นทางรถไฟฟ้าส่งผลให้สถานการณ์การแข่งขันของตลาดคอนโดมิเนียมทวีความรุนแรง ทั้งในด้านราคา ทำเลที่ตั้ง คุณภาพของโครงการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้า จุดขายต่างๆ ถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ สร้างความดึงดูดใจ หลายต่อหลายครั้งจึงมักได้ยินข่าวที่ผู้บริโภคร้องเรียนเนื่องจากพบว่าไม่เป็นไปตามโฆษณา ผู้ประกอบการผิดสัญญา หรือจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่เกิดจากตัวผู้บริโภคเอง
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จึงขอแนะนำข้อควรปฏิบัติที่ใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาก่อนผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อช่วยให้ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือป้องกันความเสียหายที่อาจเกิด โดยก่อนซื้อคอนโดมิเนียมควรตรวจสอบในเบื้องต้น ดังนี้
๑. ศึกษาข้อมูลของผู้ประกอบการว่าเป็นอย่างไร เช่น พิจารณาจากประสบการณ์ ความชำนาญ และชื่อเสียงของผู้ประกอบการโครงการ เป็นต้น
๒. ศึกษาและตรวจสอบรายละเอียดของเนื้อหาสัญญาจะซื้อจะขายกรรมสิทธิ์ห้องชุดว่าเป็นธรรมและไม่เอารัดเอาเปรียบ ระยะเวลาการก่อสร้างแล้วเสร็จตามที่ระบุไว้ในสัญญาหรือไม่ รายละเอียดประกอบสัญญา ได้แก่ รายการวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างอาคารชุดตรงตามสัญญาหรือไม่ ระยะเวลาการรับประกันความเสียหายมีระบุไว้หรือไม่ เป็นต้น
๓. ห้องที่ทำสัญญามีลักษณะถูกต้องตรงตามตัวอย่างที่โฆษณาหรือไม่ รวมถึงขนาดของห้องที่ตกลงทำสัญญาตรงตามสัญญาหรือไม่
๔. อัตราค่าใช้จ่ายส่วนกลางหรือกองทุนของนิติบุคคลอาคารชุดเหมาะสมสอดคล้องกับงบประมาณรายจ่ายการบริหารจัดการทรัพย์ส่วนกลางหรือไม่
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกประกาศให้ธุรกิจขายห้องชุด เป็นธุรกิจควบคุมสัญญา เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๓ ผู้ประกอบธุรกิจมีหน้าที่และจำเป็นต้องปฏิบัติตามประกาศที่ได้กำหนดไว้ หากผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนและไม่เป็นธรรมสามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วน สคบ. ๑๑๖๖